รูปภาพเกี่ยวข้องกับบทเพลง > มาต่อเพลงกันเถอะ
บทเพลง...และเรื่องราวของ...ชรินทร์ นันทนาคร
จรีพร:
เครดิต : คุณsuchat somboonsuk และ youtube
เพลง "เหมือนกอดโลก"
คำร้อง/ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร
ฉันได้กอดเธอ ดังได้กอดโลกไว้ในวงแขน
กายใจหวิววาบ ซาบซ่านสุขแสน ดังอยู่แดนสรวง
ความทุกข์หม่นหมอง ที่เคยท่วมท้นคลายพ้นจากทรวง
ฉันคลาดแคล้วห่วง ห้วงทุกข์ทรมา เพราะว่ามีเธอ
ฉันได้กอดเธอ ดังได้กอดโลกไว้ในวงแขน
ทรัพย์อื่นหมื่นแสน ค่ายังไม่แม้น รักจากเธอเสมอ
เธอมีวิญญาณ กายใจอบอวลชวนให้ละเมอ
ฉันได้กอดเธอ ดังกอดกุศล สุขล้นโลกเอย
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
เครดิต : คุณwinaituang และ youtube
เพลง "รุ่งทิวา"
คำร้อง : ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร
รุ่งทิวาฟ้าสะอาด ดาดด้วยแสงทอง
แต่เนตรน้อง ไร้ทิวาเหมือนราตรี
พี่รักเธอเสมอใจ รุ่งในฤดี
เราเห็นใจกันที่ รักบูชา ฟ้าเดียวกัน
ทิวางามรุ่งหัวใจ เหมือนมนต์โลมให้เราฝัน
เพราะใจตรงกัน ฝันสว่างค้างใจ
รุ่งทิวา ฟ้าแอร่ม แจ่มความไฉไล
ดลสองใจเราให้ รักนภา ฟ้าเมืองทอง
ทิวางามรุ่งหัวใจ เหมือนมนต์โลมให้เราฝัน
เพราะใจตรงกัน ฝันสว่างค้างใจ
รุ่งทิวา ฟ้าแอร่ม แจ่มความไฉไล
ดลสองใจเราให้ รักนภา โอ้ฟ้าเมืองไทย
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
เครดิต : คุณwivat pipat และ youtube
เพลง "อกฟ้าอกเรียม"
คำร้อง : ถนอม อัครเศรณี
ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร
เรียมราย ตะลึงเนตรเจตนา ชมท่องเวหา
ดาริกาสกาวพราว..แสง อกครวญ
หวนรักอาดับแทง ดาวรายแสลง เสียดแทง
เพียงเนตรนวลนาง
ขับถั่งพิรุณโปรยโชยพลาง
พิษร้อนระคาง ก็คลายด้วยสายลมครวญ
ใกล้ลับกลับจิตคิดหวน ใกล้เห็นพักตร์นวล
จึงด่วนเพ่งสวรรค์ ทันใด
โอ้..เรียมร้อนรุ่ม รุมไฟ ดาว เดือนอยู่ไหน
อกฟ้า อกเรียม เรียมครวญ
เรียมเฝ้า ฟ้าฝันรันทม จันทร์นวล ชวนชม
กลับตรม ตรอมใจใครเทียม ...(ฮัม)....
เพ็ญจันทร์ ขวัญฟ้ากอดเรียม ใช่ขวัญไกลเรียม
จำลาลับฟ้า อา..ดูร ชลนัย นองเนตรเทวษครวญ
ชลเนตรฟ้าสรวญ เรียมโศกซวน... อยู่เดียวดาย
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
เครดิต : คุณsuchat somboonsuk และ youtube
เพลง "บางกระบือ"
คำร้อง/ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร
พี่เกิดมา เป็นคนบางกระบือ
พูดถึงความซื่อ ใครรึ จะซื่อ เทียมได้
ชาวบางซื่อ ได้ฟังใจยังหวั่นไหว แสนซื่อ
อย่างกระบือมีใคร จะเทียมพี่ได้เล่าเธอ
จะเชื่องช้า แต่ว่ามั่นคง
จิตใจซื่อตรง แต่นั่นมิใช่ความเซ่อ
รักเกียรติ และรักชาติมั่นเสมอ กระบือ
แพ้ใครเล่าเธอ ใครจะเสมอ กระบือเล่านา
บางกระบือ ไม่โก้อย่างบางกะปิ
เมื่อจะริรักใคร หัวใจฉันจึงไม่กล้า
ทั้งเรามันจน จึงต้องหมองหม่นอุรา
ได้แต่รอกรุณา เหมือนดินรอฟ้า อ้างว้าง
เชื่อฟังคำ พี่ได้อย่างกระบือ
ไม่ใช่คำลือ ที่แม้กระบือจะกินหญ้าฟาง
แต่เนื้อเลือด ก็มีสีแดงไม่จาง รับรักพี่เถิด
น้องนาง เพราะพี่ซื่ออย่างคนบางกระบือ
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
เครดิต : คุณTheera Thainature และ youtube
เพลง "ลาแล้วป่าซาง"
คำร้อง/ทำนอง : สนิท ศ.
ผู้ขับร้อง :ชรินทร์ นันทนาคร
หวนคำนึง
แรกเยือนถึงถิ่นป่าซาง
รื่นรมย์สมคำคนอ้าง
ป่าซางเปรียบแดนสวรรค์
หวังใจจะอยู่
ชื่นชูพร้อมคู่ชีวัน
ปักใจหมายมั่น
ฝันหวานจนเลิศลอย
ตัวคนเดียว
ท่องเที่ยวทั่วแดนป่าซาง
หลงแต่แลสาวสะอาง
แม่นางนวลเนื้อน่าเชย
จดจิตใจจอง
แต่ต้องตรมหมองอกเอย
ร้องเพลง พร่ำเอ่ย
มิเคยมีคนรักยิ่ง
ต่างเมืองมา
มุ่งปรารถนาพึ่งพิง
คำสัตย์อ้างอิง
ซื่อจริงใจรักแน่นอน
กลับถูกเมินเฉย
ละเลยลบเลือนคำอ้อน
ใจดำด่วนตัดคำวรณ์
ร้าวรอนใจช้ำเลื่อนลอย
เหงาอารมณ์
อกตรมว้าเหว่เอกา
ยากจนเหลือทนฟันฝ่า
เกิดมาช่างมีบุญน้อย
หลงครวญสวาท
ต้องเจียมมิอาจเอื้อมสอย
โชคบุญฉันด้อย
เผลอคอยเป็นห่วงอาลัย
จำใจกลืน
สะอื้นเลยลาป่าซาง
เหมือนสิ้นมนต์ขลังเสื่อมจาง
เมื่อนางไม่นึกเยื่อใย
หมดที่จะหวัง
หมดที่จะฝังฝากใจ
เสียแรงรักใคร่
ไร้คนเคียงเชยชิดข้าง
ถิ่นทองกวาว
มากมีมวลสาวสะอาง
ไยขาดหนึ่งนาง
ช่วยสร้างความหวังแก่ฉัน
สิ้นวาสนา
ชะตารักมีเวรกั้น
วิมานสุขเป็นเพียงฝัน
ฉันขอลาแล้วป่าซาง
:'e:135 :'e:135 :'e:135
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version