สัพเพเหระ > การงานและอาชีพ

การเลี้ยงกบภายในบ้าน

(1/3) > >>

ประสิทธิ์:
ชาวบ้านคำบอน อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ยึด อาชีพเลี้ยงกบ การเลี้ยงกบ สร้างรายได้ 6-7 พันบาท ต่อเดือน


นายเสลียว ร่มจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านคำบอน หมู่ที่ 10 ตำบลกำพี้ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า หมู่บ้านคำบอนเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มี 38 ครัวเรือน ชาวบ้านในหมู่บ้านนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันและใช้พื้นที่ภายในบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โดยการปลูกพืชผักสวนครัว และ อาชีพเลี้ยงกบ การเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาภายในบ้าน ซึ่งเริ่มแรกศูนย์ศิลปะชีพสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หรือฟาร์มตัวอย่างตำบลกำพี้ ได้สนับสนุนพ่อพันธ์ แม่พันธ์กบ จำนวน 10 คู่ พร้อมให้ความรู้ด้านต่างๆ ทั้งวิธีเลี้ยงกบที่ถูกต้อง การทำให้ฝนตกนอกฤดู และการผสมพันธ์เทียม โดยตนได้ทดลองเลี้ยงจากพ่อพันธ์แม่พันธ์ 10 คู่ จนปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นหลายพันตัว และสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองทุกเดือนประมาณเดือนละ 6,000 – 7,000 บาท

ซึ่งราคาจำหน่ายกบมีราคาแตกต่างกันไปตามขนาดตัวกบ ตั้งแต่เริ่มเป็นลูกออด เป็นกบเล็ก และกบขนาดใหญ่ ส่วนทางด้านการตลาดก็ไม่มีปัญหาเรียกได้ว่าไม่พอสำหรับความต้องการ ขณะนี้ตนกำลังขยายพ่อพันธุ์แม่พันธ์ เพื่อให้ชาวบ้านคำบอนทั้ง 38 ครัวเรือนได้ อาชีพเลี้ยงกบ การเลี้ยงกบ ให้ครบทุกครัวเรือน เพื่อให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนเข้มแข็งอย่างแท้จริงและยั่งยืนปล่อยเสียงสัมภาษณ์…นายเฉลียว ร่มจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10

ด้านนายกรธวัช ยุงรัมย์ เจ้าพนักงานส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง กล่าวว่า ศูนย์ศิลปะชีพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีหน้าที่สนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่รู้จักการนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ อาทิ การสนับสนุนการปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์เล็กภายในบริเวณบ้านตนเอง หรือที่สวนที่นา จนเกิดเป็นอาชีพเสริมรายได้จากการทำนา และสนับสนุนความรู้ด้านต่างๆ แก่ประชาชน

การสนับสนุนพันธุ์กบก็เป็นส่วนหนึ่งในโครงการฯ เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน สามารถใช้เป็นอาหาร และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ ทำให้ชาวบ้านคำบอน ตำบลกำพี้ อำเภอบรบือ มีความเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ จนได้รับคัดเลือกจากจังหวัดมหาสารคาม ให้เป็น 1 ใน 84 หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปี 2554

ที่มา กรมประชาสัมพันธ์

เฒ่าแก่:
เขาเลี้ยงในคอนโดกันแล้วอะลุง

หุ หุ หุ

อยากเลี้ยง แต่กลัวกินหมด

chattanon:
เพิ่งมีโอกาสมาอ่านในเรื่องเกี่ยวกับวิชาชีพ  ผมว่าเข้าท่าดี  ขออนุญาตเอาประสบการณ์ของตนมาเล่าสู่กันฟัง คิดว่าน่าจะหนึ่งเพลิดเพลิน สองได้ต่อยอดจากสิ่งที่

ท่านประสิทธิ์ นำเสนอแล้ว  ตอนเรียนลาดกระบัง  ขออนุญาต เปิดเผยว่า ผมเรียนคณะเทคโนโลยีการเกษตร   อาจารย์ปิฎฐะ   ท่านเสมือนพ่อของงนักศึกษา ท่านเคย

สอนว่า จะทำงานอะไร อย่าไปทำตามอย่างคนอื่น หรือหากทำเหมือนคนอื่น ต้องทำให้ดีกว่า  ครั้งนั้น ในสายเกษตร จะมีสองสายใหญ่คือ พืช  กับสัตว์   จริงๆ แล้วผม

คลุกคลีและชอบด้านพืชมากกว่าด้านสัตว์  ตั้งใจจะเอาดีทางกล้วยไม้  เพราะพี่ชายเขามีเรือนกล้วยไม้แถวคลองตัน  ผมช่วยเพาะขยายให้เขา ดูแล ทุกอย่าง แต่เพราะ

บังเอิญสมัยเรียน นักศึกษามาก เขาแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ ห้องหนึ่งถึงห้องสี่ เรียนชีววิทยาด้านพืชก่อน  กลุ่มห้าถึงแปดเรียนสัตววิทยาก่อน เขาจะสลับกันเรียน

เพราะเรียนสัตววิทยา เขาเลยบังคับให้เรียนสาขาสัตว์ศาสตร์   ผมนี่ต้องทะเลาะกับอาจารย์บอกว่าทำไม ต้องมักมือชก  เอาหลักเกณฑ์แบบนี้มาใช้เป็นเผด็จการ

ในความจริงการที่นักศึกษาจะเลือกเรียนสาขาใด  ต้องให้เขาเลือกเขาชอบ จึงจะถูก   ผมหงุดหงิดอยู่พัก  ได้ยินอาจารย์ท่านบอกลองเรียนดูก่อนถ้าไม่ชอบด้านสัตว์

เดี๋ยวจะทำเรื่องเปลี่ยนสาขาให้   พอมาเรียนสัตว์ศาสตร์ มันังมีสาขาให้เลือกอีก นับแต่สัตว์ปีก   เช่นไก่พื้นบ่าน  ไก่พันธ์   ไก่ชน  ไก่งวง ไก่ฟ้า  ห่าน เป็ด  ฯ,ลฯ

สัตว์เล็ก  มีหมู  แพะ แกะ  กวาง เก้ง  สัตว์ใหญ่ อย่างวัว  ควาย ม้า  ช้าง  สัตว์น้ำ อย่างปลา กบ เต่า ตะพาบ กุ้ง ปู หอย ยังแยกเป็นน้ำจืด น้ำกร่อย   น้ำเค็ม

วันนี้ให้ผมมาเล่าประสบการณ์ทางวิชาการ สักนิดหนึ่ง   ดีเหมือนกัน คุยแต่ประสบการณ์ด้านเพลง  มาก็พอควรแล้ว นี่ไม่ต้องพล๊อตเรื่องอะไร เพราะมันเป็นประสบการณ์

ตรง   เอาเป็นว่าผมจำต้องฝีนมาเรียนด้านสัตว์  และวันนี้คนที่เรียนด้านนี้มาก็ติดยศ พันเอกหลายคน  คนที่ผมพูดบ่อยคือพันเอกยุทธนา เพิ่งโทรคุยกันได้ไม่นาน

ผมอำเขาว่า จะชวนมาตีกอล์ฟ  ทั้งๆ  ที่ผมไม่รู้เรื่องแรแม้แต่นิด  หลอกให้เขามาเที่ยวหาว่าที่ลำปางมีสนามกอล์ฟดีเยี่ยม   แต่หมอนี่เคยมา แต่เขาไม่รู้ว่าผมอยู่นี่

เขาบอกผมว่าเคยมาแล้วสนามที่ดีจริงๆ  เขาบอกว่าอีกว่าคราวหน้า จะพาไปเล่นกลอฟ สรุปว่าเพื่อนผผมได้ดีเพราะเรียนสัตว์ศาสตร์  ตอนนั้นเขาบังคับให้นักศึกษา

แต่ละคนต้องศึกษาสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วมานำเสนอ เพื่อนผมคนหนึ่งชอบกบ ช่วงงานเกษตรแฟร์  มีหน่วยงานภาคเอกชน เอากบ  บลูฟ๊อคมาขาย  เขาซื้อมาสักห้าสิบตัว

เพื่อมาลองเลี้ยง  ก็พอได้ ตายไปกว่าครึ่ง  เพราะตอนนั้นเพิ่งเริ่มทดลองเลี้ยง  ตอนนั้นมีคนพูดว่าใครเลี้ยงกุ้งก้ามกรามรอดสักสิบเปอร์เซ็นต์ก็รวย  เพราะตอนนั้นการ

เลียงกุ้งก้ามกรามยาก  ผมไม่ศึกษาการเลี้ยงกุ้ง แต่ผมศึกษาว่าทำอย่างไร จะให้ลูกกุ้งรอดได้มากที่สุด เลยศึกษาวิธีการทำอาหารลูกกุ้ง เขาเรียกว่าอาร์ทีเมีย ยังจำ

ได้ขึ้นใจ  อาจารย์ซักผมเพราะสนใจเพราะเราคิดไม่เหมือนคนอื่น  จำได้ว่าดอกเตอร์ปฐม  เลาหเกษตร  ตอนนั้นท่านหัวหน้าภาคสัตว์ศาสตร์ ท่านชอบแนวคิดนักศึกษา

หลายคน   ผมคงจะมาเล่าต่อเป็นตอนๆ น่าจะดีนะครับท่านประสิทธิ์  เผื่อจะได้พักสายตาบ้าง  ตอนนี้ให้สมาชิกไปฟังเพลงสักเพลงสองเพลงก่อน ....

ประสิทธิ์:
ดีมากเลยครับคุณชัช ค่อยๆเล่าเป็นตอนๆก็ได้ ผมว่างก็เข้ามานั่งอ่านคอมเม้นต์ของคุณเสมอๆครับ ขอบคุณมากที่ทำให้กระทู้มีความสำคัญน่าติดตามยิ่งขึ้นครับ แล้วจะมาตามตอนต่อไปนะครับ
 :'e:106 :'e:106

ปูน_ขอนแจ่น:
 :'e:92ไม่มีเวลาดูแล ครับ อิอิ ชอบทานครับกบ เอิ็บ เอิบ อิอิ :'e:94 :'e:94

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version