ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน  (อ่าน 7299 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ คงชัย

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 431
    88
  • เพศ: ชาย
พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« เมื่อ: 04/ต.ค./13 20:59น. »


ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน เพื่อเห็นแก่แม่ บัณฑิตใหม่หมาดจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้

เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสานพระหนุ่มการศึกษาสูง มาจากตระกูลผู้ดี มีแต่ความสุขสบาย เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน แต่ก็นั่นแหละกว่าจะ 'นิ่ง' ก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆ กัน

ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะ พระใหม่มีนิสัยชอบจับผิดและชอบอวดรู้ ยกหู ชู หางตัวเองอยู่เป็นประจำ วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่

ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์ เย็นก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกิน กว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที ล้างไปบ่นไปตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอก ต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้ โอ้ชีวิต!ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจ สิ่งนั้นสิ่งนี้ ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่า ใครในวัดนั้น ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระ รูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตูนึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาซ้ำนานๆ ครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วันๆ ไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชาอุตส่าห์เขียนคำวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการวัดได้ร่วมยี่สิบข้อ เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่า ล้าสมัยรวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูกอีก หนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้น เทศน์ให้มากขึ้นและแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า

เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ

"เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อนคันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน
แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี
คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักทีเลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการ ?คัน? นั้น
หาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่
แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคเรื้อนซึ่งเกาะกินอยู่บนหลังของตัวมันเองนั่นต่างหาก"

พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่าได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกตินอกสงบแต่ในวุ่นว่ายนึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง แม้เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก

"อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา"

โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชายแล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลาง
นึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า 'หมาขี้เรื้อน' ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442
ราษฎรเต็มขั้น อันเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา ดั่งมีเกลือเพียงหนึ่งด้อยราคา ดีกว่ามีน้ำเค็มเต็มทะเล

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 29/ต.ค./13 19:21น. »

ยาวไปนิดแต่ได้ข้อคิดที่ดีมากค่ะขอบพระคุณท่านคงชัยค่ะ  :'e:92

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ หนุ่ย บ้านส้อง

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 144
    12
    • อีเมล์
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 09/พ.ย./13 11:08น. »

 :'e:31
ถูกต้องแท้จริง เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้
 :'e:94

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ สุบิน

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 2334
    646
    • อีเมล์
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 17/พ.ย./13 07:02น. »

 :'e:92 สาธุ.สอนใจเราใช่ของใครอื่น
 :'e:94

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ น้ำหวานเจี๊ยบ

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 268
    58
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 13/ก.พ./14 20:15น. »

ขอบคุณพี่คงชัยมากครับ จะชั่วจะดีอยู่ที่เราทำตัวเอง อย่าไปโทษใครเลย

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ ปณต

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 721
    48
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 16/มิ.ย./14 14:00น. »

จากเรื่องนี้เป็นความรู้ธรรมะที่ให้ข้อคิดดีๆคับ สาธุ...ได้อ่านแล้วสบายใจ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ ดนัย

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 3
    5
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 31/ก.ค./14 14:11น. »

สาธุ ครับท่านคงชัย ถือว่าเป็นวาสนาของผมที่ได้อ่าน ขอบคุณมากครับสำหรับบทความที่ให้ข้อคิดดี ๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ ศุภเวช

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 116
    11
    • อีเมล์
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 31/ก.ค./14 17:48น. »

เป็นธรรมที่พระอาจารย์สอนได้ดีมากครับ ได้ข้อคิดที่ดี
ทุกวันนี้ต้องหันมามองตัวเองมากๆ ก่อนที่จะว่า หรือตำหนิ
คนอื่นๆ
ขอบคุณมากครับคุณคงชัยฯ ครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ ปลาป๋อง

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 1645
    1475
  • เพศ: ชาย
  • ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 01/ส.ค./14 10:20น. »

ผมเคยไได้บวชพรรษานึงได้พบกับสิ่งรอบข้างภายในวัด ทั้งดีและไม่ดี แต่อยู่ที่ตัวเราว่าจะปฏิติได้มากน้อยแค่ใหนอยูที่ความตั้งใจของเราเองมากกว่า :'e:94สำหรับเนื้อหาธรรม/ธรรมมีประโยชน์สำหรับผู้เข้าถึงเข้าใจและปฏิบัติตามจึงจะเกิดประโยชน์

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ ปรางมล

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 126
    101
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 07/ต.ค./14 19:51น. »

โมทนาสาธุค่ะเรื่องนี้เคยอ่านและจำได้ว่าสอนใจเราดีมากๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442

ออฟไลน์ น้องตูน

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 98
    89
Re: พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 23/ธ.ค./14 17:17น. »

ขอบคุณคราบ พี่คงชัย  :'e:133

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=20442