สัพเพเหระ > เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า

แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)

(1/2) > >>

อภัย:
จากวูบหนึ่งของความรู้สึกสิ้นหวังต่อสังคมไทยครับ

แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)

เมืองเอ๋ย เมืองไทย       ศิวิไลซ์ศิวลึงค์
รุ่งเรืองปานประหนึ่ง       อารยประเทศก็มิปาน

ตึกรามงามสง่า             คมนา.ยอดยวดยาน
มากมายข่ายสื่อสาร       เครื่องไฟฟ้าก็มากมี

แต่งองค์ทรงสมัย          ล้ำสไตล์ฉายบารมี
ลุคเจแปนเกาหลี           ฝรั่งมังกี้เกลื่อนเมือง

ทุกสิ่งที่แลเห็น            ว่าดีเด่นว่ารุ่งเรือง
มีสิ่งใดเล่าเรื่อง            อัตลักษณ์ความเป็นไทย

มีใดให้ชูเชิด               ว่าก่อเกิดจากภายใน
จากภูมิปัญญาไทย        อวดโลกได้โปรดเฉลย

รอยไทยใกล้สูญแล้ว      พี่น้องแก้วลูกหลานเอย
รากเหง้าเจ้าละเลย        ว่าชั่วเชยมิชูชม

เห่อหองแต่ของนอก      ของไทยบอกว่าต่ำตม
เหยียบย่ำซ้ำทับถม        ผู้ใฝ่ฝักอนุรักษ์ไทย

อนิจจาน่าอนาถ            มิสิ้นชาติก็เหมือนใช่
แม้เลือดเนื้อเชื้อไทย      แต่หัวใจไม่ใช่เลย
______________
พอ 09 ต.ค. 2553

ภูวดี:
จากกลอนมาเป็นกาพย์    ได้รับทราบมิอยู่เฉย
ขอตอบ..ชอบจังเลย    ที่ท่านเปรยมาบทนี้

กล่าวถึงความเป็นไทย    ที่ใครใครควรรู้ดี
ว่าไทยมีศักดิ์ศรี   ความเป็นไทยอยู่ในตัว

เลียนแบบชาติอื่นเขา    ความเป็นเราเริ่มสลัว
เทรนเกาหลีเข้ามาทั่ว จนน่ากลัวจะลืมไทย

คำว่าอนุรักษ์  ควรรู้จักกันเอาไว้
ว่าเรานั้นเป็นใคร  อย่าลืมไทยนะท่านเอย
กาพย์ ไม่ค่อยจะมีใครเขาเล่นกันนะครับ  หายาก
ขอบคุณครับคุณอภัย ที่ช่วยรื้อขึ้นมาให้ได้เห็นกันอีก :'e:94

ชบาบาน:
มีฝีมือทั้งคู่ ขอบคุณขอรับ

จังโก้:
เห็นด้วยกับท่านอภัยครับ ผมเองก็รำพึงในใจดังๆมานานแล้ว แต่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณภูวดีอย่างยิ่ง ที่ว่ากาพย์ไม่มีใครเล่นกัน ถ้าคิดกันแบบนี้ ลิเกก็ไม่มีใครเล่นกัน ลำตัด โขน ดนตรีไทย ก็ไม่มีใครเล่นกัน ต่อไปก็สูญพันธ์ ต่อไปเราคงได้เรียนรู้ศิลปะพวกนี้จากภาพวาดกัน ต่อไปคนไทยก็คงจะรู้จักแต่กลอนแปด โคลง กาพย์ก็สูญพันธ์ไปตามระเบียบ

บุญเทิด:
แหม .. คุณอภัยนี่สุดยอดจริง ๆ ครับ คมคายที่สุด ... ชอบมากครับ ... :'e:133 :'e:133 :'e:133

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version