สัพเพเหระ > เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า

เตือนใจ

(1/1)

เพียงจันทร์ เชียงใหม่:
...ฝนตกอีกครั้งแล้วในนัยน์ตา
เมื่อใจเธอเหมือนฟ้าที่่ครึ้มฝน
เป็นฤดูงมงายทุรายทุรน
ด้วยคิดถึงคนที่รักร้างลาไป
...ความคิดถึงของเธอออกเดินทาง
ยิ่งพบแต่ความเวิ้งว้างพาหวั่นไหว
เหมือนเรือล่องอับปางกลางทะเลไกล
มองทางไหนก็หดหู่อยู่ทุกครา
...ความคิดถึงจะเกิดขึ้นเมื่อคิดถึง
ความเจ็บปวดยิ่งรัดรึงเมื่อปรารถนา
ฝนจึงตกและเจิ่งนองเต็มสองตา
จะเจ็บไปจนชาติหน้าฤาอย่างไร
...ฝนตกอีกครั้งแล้วในนัยน์ตา
ตกมาเพราะไม่หักห้ามความหวั่นไหว
สิ้นคำเตือนสิ้นคำปลอบประโลมใจ
ฝนจะหยุดตกวันใดถามใจเธอ

ชบาบาน:
ขอรับคงจะต้องมีคนตอบแหละขอรับ ว่าแต่ว่าคนที่ท่านเพียงจันทร์ถามนั้นรับทราบหรือไม่
ถ้ารับทราบคำถามตอบด้วยขอรับ  ขอบคุณท่านเพียงจันทร์ พักหลังนี่ออกจะห่างไปนิด คง
ยุ่งกับการอบรมลูกศิษย์ลูกหากระมัง? (กระผมเดาเอาเองว่าท่านเป็นครู ผิดถูกขอประทานอภัย)

บุญเทิด:
แหม่ อ่านของคุณเพียงจันทร์ แล้ว สละสลวย สวยงามย่ิงครับ เพราะมาก ชอบจริง แต่อารมณ์อย่างในกลอนที่รักหลอนน่ะ ไม่อาวนะกลัวอกหักครับ   ....... :'e:133 :'e:133 :'e:133

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

Go to full version