สัพเพเหระ > เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า
สุริยายอแสง
ลุงชัย นรา:
...กลอนบทนี้ ขอสานต่อ จากท่านชบาบาน เรื่องราวของ วิมานบ้านนา ขอบคุณครับ ที่ทำให้ได้ย้อนอดีต จากบทกลอนของท่าน
.....หอมไอดิน..กลิ่นหญ้า..เวลาพลบ
ตะวันหลบ..ดวงสู่..หลังภูเขา
ภาพที่ยัง..ฝังใจ..ครั้งวัยเยาว์
ทยอยเข้า..มาเยือน..เตือนความจำ
เคยถือเบ็ด..คู่กาย..สะพายข้อง
มุ่งหน้าสู่..คูคลอง..และหนองน้ำ
ได้ปลามาก..หลากแท้..ให้แม่ทำ
ทั้งแกงส้ม..ต้มยำ..อย่างสำราญ
ปั้นดินไว้..ใส่พก..ยิงนกเอี้ยง
นั่งเฝ้าหนำ..เลี้ยงควาย..ท้ายหมู่บ้าน
นอนนับดาว..พราวฟ้า..ราตรีกาล
แสนชื่นบาน..บ้านป่า..เมื่อครานั้น.....
http://www.youtube-nocookie.com/v/qFmFUUjYO6w?hl=th_TH&version=3"></param><param name="
สุริยายอแสง
คำร้อง/ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ
ขับร้อง เมืองมนต์ สมบัติเจริญ
ชบาบาน:
หลับตาเห็นภาพเลย พร้อมทั้งเพลงเพราะๆแหมกินใจดีจังขอรับ ท่านลุงชัย ความสุขชองคนวัยเราๆก็นี่แหละ ความหลังที่มันผุดขึ้นมาแต่ละ
ครั้งมันให้ความสุขใจจนไม่อาจจะพรรณาได้ ขอบคุณขอรับท่านลุงชัย
บุญเทิด:
แจมลุงชัย " สุริยายอแสงด้วยนะครับ ."
สุริยา ยอแสง อ่อนแรงล้า
หมดเวลา หากิน กลับถิ่นฐาน
มีต้มแฟง แกงหอม พร้อมหน้ากัน
สุขสำราญ นั่นแหละหนา ประสาเรา
บ้างทำนา ประสาเก่า เฝ้าถิ่นเกิด
บ้างเด่นเลิศ เมืองหลวง โชติช่วงเขา
บ้างอยู่ดง พงป่า พนาเนาว์
ไร้ทุกข์เศร้า เราอยู่ รู้พอตน
ลูกมองพ่อ พ่อมองลูก ผูกดวงจิต
แม่แนบชิด ชีวิตร้าย ไม่ก่อผล
ผูกพันจิต ชิดแนบ แอบอิงตน
ก็สุขล้น ปานสวรรค์ ชั้นเมืองแ มน .........
เพลงเพราะมากครับลุงชัย
ชบาบาน:
บทร้อยกรองของท่านก็เข้าท่า ขอบคุณขอรับกระผม
ลุงชัย นรา:
..ดีใจครับ ที่คุณบุญเทิด....มาช่วยกันเสริมต่อ..ทำให้ก่อเกิด ควมทรงจำในอดีต.และขอบคุณในคำชมที่ให้กำลังใจเสมอมา ของท่านชบาบาน..ครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version