ผู้เขียน หัวข้อ: วงคีรีบูน ดนตรีป๊อปไทยในทศวรรษที่ 80  (อ่าน 3192 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิชัย กรุงเทพ

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 45
    24
    • อีเมล์


วงคีรีบูน ดนตรีป๊อปไทยในทศวรรษที่ 80



สมาชิก
รณชัย ถมยาปริวัฒน์ (อ๊อด) (17 ส.ค. 2507) - ร้องนำ, กีต้าร์
อาทิตย์ นามบุญศรี (โอ๋) (20 มิ.ย. 2508) - กีต้าร์
ไกรฤทธิ์ แพสุวรรณ (โหน่ง) (2 มิ.ย. 2507) - เบส
ไพศาล อัญญธนา (ศาล) (26 มี.ค. 2508) - คีย์บอร์ด
พิพัฒน์ นิลประภา (ตุ้ม) (14 ก.ย. 2508) - คีย์บอร์ด
ชัยพล อิ่มด้วยสุข (หนุ่ม) (5 ธ.ค. 2508) - กลอง
คมสันต์ ตันไชยฤทธิกุล (ต๋อง) - เบส

วงดนตรีที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดให้กับ อาร์.เอส.ซาวด์ (อาร์เอสในปัจจุบัน) ในยุคแปดศูนย์ มีแฟนเพลงคอยติดตามซื้อผลงาน ดูคอนเสิร์ต มากที่สุด (เทียบกับทุกวงในรุ่นจากค่ายเดียวกัน) จนถึงปัจจุบันแฟนเพลงก็ยังเฝ้ารอให้มีคอนเสิร์ตรียูเนียนแบบเต็มรูปแบบสักครั้ง พวกเขาคือวงดนตรีที่เรียกตัวเองว่า คีรีบูน ต้นสังกัดตั้งชื่อให้ในเดือนพฤษภาคม 2526 ในขณะนั้น อาร์.เอส.ซาวด์ เปิดบริษัทมาได้สองปีโดยก่อนหน้านี้เฮียจั๊ว (เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์) ทำธุรกิจด้านเทปเพลงอยู่ก่อนแล้วในชื่อโรสซาวด์และมาเปลี่ยนชื่อในปี 2525 โดยทำวง "อินทนิล" เป็นวงแรก ได้รับความสำเร็จเป็นที่รู้จักประมาณหนึ่ง เข้าปี 2526 อาร์.เอส..ซาวด์ เริ่มรุกหนักระดมหาวงสตริงเข้าสังกัดหลายวงทั้งวงที่เล่นอาชีพอยู่แล้วเช่น "ฟรุ๊ตตี้" "บรั่นดี" และวงวัยรุ่นหน้าใหม่ที่มีแววปั้นได้

งานเพลงตัวอย่างของคีรีบูนได้รับการนำไปเสนอกับทาง อาร์.เอส.ซาวด์ ทางเฮียจั๊วพอใจจึงให้เริ่มบันทึกเสียงแบบสายฟ้าแลบ ที่มาของเดโม่เกิดจากอ๊อดซึ่งมีความมุ่งมั่นจะเอาดีในวงการนี้ควบคู่ไปกับการเรียน เขาได้รับอิทธิพลทั้งจากวงชาตรีและวงอิสซึ่นโดยคุณพ่อให้การสนับสนุน เครื่องดนตรีที่เล่นชิ้นแรกคือกลองและเปลี่ยนมาเล่นกีต้าร์ในภายหลัง เมื่อรายการวิทยุ "สบายใจยามบ่าย" จัดประกวดโฟลค์ซองโดยให้ผู้สมัครส่งเทปเข้าไปในรายการเพื่อคัดเลือกมาประกวดในรอบสุดท้ายอีกที อ๊อดแต่งเพลง "หากรัก" และ "แม่จ๋า" เข้าไปในรายการเพื่อหวังเงินรางวัลสองหมื่นมาเป็นทุนในการบันทึกเสียงงานวงดนตรีของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า "อัญชา" ซึ่งรวมตัวกันมาตั้งแต่ ม.ศ.2 วงนี้เคยเข้าประกวดรายการวันดวลเพลงที่จัดโดย ว.ค.บ้านสมเด็จและได้ลำดับที่สามมา โดยสมาชิกของวงอัญชาในขณะนั้นนอกจากอ๊อดแล้วที่เหลือไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงคีรีบูนในภายหลัง ผู้คัดเลือกเพลงได้ฟังเสียงของอ๊อดจึงนำไปเสนอค่ายและได้รับการชักชวนให้บันทึกเสียงในทันที ช่วงดังกล่าวเป็นช่วงรอยต่อของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสมาชิกดั้งเดิมเลือกทางเดินด้านการเรียนมากกว่าเหลืออ๊อดซึ่งสอบติดเศรษฐศาสตร์-จุฬา ไม่ละทิ้งความฝันรวบรวมหาสมาชิกใหม่จนได้ไลน์อัพชุดแรกและอาร์.เอส.ก็ตั้งชื่อให้ใหม่คือคีรีบูนซึ่งน่าจะทำการตลาดได้ง่ายกว่าชื่อวงเดิม

"หากรัก" เทปชุดแรกเหมือนม้าตีนปลายออกสตาร์ทแบบช้าๆ แฟนเพลงได้ฟังเพลงรวมถึงได้ดูวิดีโอโปรโมทกันอยู่หลายเดือนเพลงถึงเริ่มติด คีรีบูนได้รับรางวัลวงดนตรีหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากการสำรวจของนิตยสารโดเรมีจากแบบสอบถามกว่าสามหมื่นฉบับ เฮียจั๊วไม่รอช้าให้ทางวงทำเทปชุดที่สองตามออกมาทันทีในชุด "รอวันฉันรักเธอ" เทปชุดนี้ขายดีตลอดทั้งปี 2527 จุดเด่นคือนำเพลงเก่าอย่าง "ปลูกรัก" มาเรียบเรียงในแบบอคูสติคผนวกเข้ากับเสียงร้องของอ๊อดทำให้เป็นเพลงที่ฟังได้เรื่อยๆ แทร็คที่โดดเด่นที่สุดคือไทเทิ้ลแทร็คจากการแต่งของอ๊อด "รอวันฉันรักเธอ" เป็นเพลงขึ้นทำเนียบเพลงรักคลาสสิคจากยุคแปดศูนย์ไปแล้ว เพลงอื่นๆอยู่ในเกณฑ์ดีทุกเพลงเมื่อเทียบกับมาตรฐานเพลงป๊อปในช่วงเวลานั้น

สมาชิกของคีรีบูนบางส่วนถูกวางตัวให้อยู่ในโปรเจคท์เพลงคู่ "รวมดาว" เทปชุดนี้เกื้อกูลชื่อเสียงให้คีรีบูนเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นไปอีก ปี 2528 เทปชุดที่สาม "เพื่อน" ออกขายทางวงยังรักษาระดับความสำเร็จเอาไว้ได้แต่ตัวงานไม่ได้ฉีกไปจากเดิม ทางวงมีการเปลี่ยนสมาชิกโดยได้ต๋องเข้ามาแทนที่โหน่งในตำแหน่งเบสและออกงานชุด "เพียงก่อนนั้น" ในปี 2529 จากนั้นทางอาร์.เอส.ให้อ๊อดออกงานเดี่ยวเพื่อตามกระแสการเปลี่ยนความนิยมจากวงดนตรีประเภทสตริงมาเป็นศิลปินเดี่ยว อันเนื่องมาจากการออกงานเดี่ยวของ แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ ในขณะนั้นซึ่งประสบความสำเร็จมาก "ตลอดกาล" เป็นงานชุดท้ายออกมาในปี 2530 เป็นงานที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นอาร์.เอส.ก็ให้น้ำหนักในการผลักดันการเป็นนักร้องเดี่ยวของอ๊อดมากกว่า

แนวเพลงของ คีรีบูน เป็นแบบฟังเพราะๆ ฟังง่ายๆ คอร์ดเล่นตามไม่ยาก จึงเข้าถึงผู้ฟังได้ง่ายรวมถึงวัยรุ่นที่เพิ่งหัดเล่นกีต้าร์และเพิ่งตั้งวงก็มักจะแกะเพลงของคีรีบูนเล่นกัน เรียกได้ว่าพวกเขาเป็นวงรุ่นที่สองต่อจากวงชาตรีที่มีอิทธิพลต่อการเริ่มเล่นดนตรีของวัยรุ่นไทยในยุคนั้น จำได้ว่าวงดนตรีของเพื่อนผู้เขียนตอนตั้งวงแรกๆ ก็จะเล่นแต่เพลง "โอ้นกน้อย" ซ้ำไปซ้ำมาเล่นกันจนมีทักษะขึ้นถึงเขยิบไปแกะเพลงของอื่นๆเล่นบ้าง

ผลงาน
หากรัก (2526)
รอวันฉันรักเธอ (2527)
เพื่อน (2528)
เพียงก่อนนั้น(2529)
ตลอดกาล(2530)



ที่มา http://www.oknation.net/blog/kilroy/2008/08/09/entry-1


ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=31589

ออฟไลน์ เอิร์ท ระยอง

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 81
    5
    • อีเมล์
Re: วงคีรีบูน ดนตรีป๊อปไทยในทศวรรษที่ 80
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 26/ธ.ค./14 22:42น. »

ชอบมากเลยครับวงนี้ ฟังตั้งแต่เด็กๆแล้ว ไม่ค่อยรู้ข้อมูลมากเท่าไหร่ ได้แต่ฟังเพลงอย่างเดียว ขอบคุณครับที่แชร์มา


ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=31589

ออฟไลน์ ตี๋ ขอนแก่น

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 86
    5
Re: วงคีรีบูน ดนตรีป๊อปไทยในทศวรรษที่ 80
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 21/เม.ย./16 10:02น. »

เพลงที่แจ้งเกิดสำหรับ วงคีรีบูนคือเพลงหากรัก ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวของอัลบั๊มชุดนี้ ทำให้วงการเพลงในสมัยนั้นเป็นกระแสอย่างมากสำหรับเพลงนี้ และก็ทำให้อ๊อด คีรีบูน ดังมากๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=31589