มาดูแลสุขภาพกัน > โรคภัยใกล้ตัว

มะเร็งตับ มีสาเหตุมาจากอะไร ?

(1/5) > >>

ภูแมว:
หมายเหตุ: พอดีได้รับเมล์ fwd มาจากเพื่อนค่ะ หลังจากมีข่าวเรื่องคุณสายัณห์ สัญญา ป่วย จะถูกผิดประการใดคงต้องรบกวนคุณหมอพูห์ช่วยยืนยันอีกครั้งนะคะ

มะเร็งตับ มีสาเหตุมาจากอะไร ?

          1. ส่วนใหญ่ของการเกิด มะเร็งตับ มีสาเหตุมาจากไวรัสตับอักเสบบีและซี จากข้อมูลสถิติของหลายสถาบันได้ผลใกล้เคียงกันว่า 80% ของผู้ป่วยโรค มะเร็งตับ เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็น มะเร็งตับ โดยมีความเสี่ยงสูงกว่าคนปกติถึง 223 เท่า (ข้อมูลจากหนังสือความรู้เรื่องโรคตับสำหรับประชาชน)

          2. มีข้อมูลที่น่าสนใจประการหนึ่งว่า ประมาณ 90% ของผู้ป่วยโรค มะเร็งตับ จะมีตับแข็งร่วมด้วย นั่นก็หมายความว่า ถ้าท่านป่วยเป็นพาหะตับอักเสบบี และมีตับแข็งแล้ว ความเสี่ยงที่จะเป็น มะเร็งตับ จะสูงมากๆ ทีเดียว

          3. มะเร็งตับ ยังมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีข้อมูลทางวิชาการที่ยืนยันได้ว่า ผู้ที่ดื่มสุราแอลกอฮอล์เป็นประจำมีความเสี่ยงเป็น มะเร็งตับ สูงกว่าผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์

          4. สารอะฟลาท๊อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งพบปนเปื้อนอยู่ในถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง กระเทียม เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ ก็เป็นสารก่อมะเร็ง ที่เป็นสาเหตุอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิด มะเร็งตับ จากการศึกษาพบว่า อะฟลาท๊อกซิน มีความสัมพันธ์กับไวรัสตับอักเสบบี โดยเชื่อว่าเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเป็นตัวทำให้เกิดมะเร็งตับ และอะฟลาท๊อกซินเป็นตัวเสริม เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี จึงควรที่จะหลีกเลี่ยง ถั่วลิสง โดยเฉพาะถั่วลิสงป่นที่ค้างนานๆ ข้าวโพด พริกแห้ง กระเทียม เต้าเจี้ยว และเต้าหู้ยี้

จะทราบได้อย่างไรว่ากำลังเป็น มะเร็งตับ ?

          สาเหตุประการสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเป็น มะเร็งตับ มีอัตราการอยู่รอดต่ำก็คือ มะเร็งตับในระยะแรกซึ่งจะสามารถรักษาให้หายขาดได้นั้น มักไม่แสดงอาการที่ชัดเจนออกมา โดยผู้ป่วยจะมีอาการคลุมเคลือ เช่น เสียดท้องด้านขวา มีอาการจุกแน่นในบางครั้ง แต่โดยส่วนใหญ่แทบไม่มีอาการอะไรเลย ทั้งนี้ ก็เพราะตับเป็นอวัยวะที่มีกำลังสำรองมาก คนเราสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการทำงานของตับประมาณ 30% ดังนั้น เมื่อมีอาการที่ชัดเจนมะเร็งก็อยู่ในระยะลุกลาม หรือ มีขนาดใหญ่และไม่สามารถจะรักษาได้แล้ว

โสภณ:
ตอนอายุ 23ปีเคยเป็นดีซ่าน ตัวเหลืองตาเหลืองปัสสาวะเหลืองอ่อนเพลีย ตอนนี้ยังกังวลเรื่องมะเร็งเหมือนกัน

สุรพันธ์ นครปฐม:
ขอบคุณครับสำหรับสาระที่เป็นประโยชน์

หนูอ่ำ:
ขอบคุณครับ ข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์

ประจิม ทีโอที:
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล อ่านแล้ว จำไว้เตือนตัวเอง เวลากินอะไร ผมก็เคยข้าโรงพยาบาบเปาโล รักษาฝีในตับ ประมาณ 1 สะปดาห์ โชคดี ได้ ศ.นพ.สุชา คูระนอง มารักษา ถ้าจำไม่ผิด ท่านเป็น นพ.คนแรกๆ ที่รักษาและศึกษาเรื่องฝีในตับ คนแรกๆ ของประเทศ ที่โชคดีอีกประการคือ ท่านบอกว่า ไม่มีเซลล์มะเร็งตับ แต่ต่อไปนี้ก็ไว้ใจไม่ได้ครับ ขอให้ทุกท่านโชคดี ปราศจากโรคภัย ไข้เจ็บครับ :'e:92

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version