รูปภาพเกี่ยวข้องกับบทเพลง > มาต่อเพลงกันเถอะ

มาต่อเพลงกันเด้อ หนุกๆ

<< < (20/1098) > >>

ภูฤดู ปักซัว:
ฉันรักเธอ
วง ดิ โอเปี้ยม


โอ้ว่าความรัก  ดวงตามันฟ้อง
มันร่ำมันเรียกมันร้อง  มันร้องว่ารัก ว่ารัก
ยิ่งตามองกัน  มันอัศจรรย์ยิ่งนัก
แอบมองแล้ว อยากรู้จัก
ปากบอกว่ารัก  ใจอยากจะรู้

โอ้ว่า...ความรัก  ลอยมาตุ๊บป่อง
ดังเพลงนิ้งหน่อง นิ้งหน่อง  ตู้ฮู้ ตู้ฮู้ ตู้ฮู้
ทำเมินไม่มอง  แต่หัวใจ มันกู่ มันกู่
ตูมตามติ้งเท่ง รออยู่  ฉิ่งฉิ้งฉับ ว่ารัก ว่ารัก

โอ้...มาย เดีย วัน มอ ทาม
อยากจะกิน ไข่ไก่  แต่กลัวแม่ไก่กระต๊าก
เกี้ยวไม่เป็น  ถ้าไม่ทะเล้น  มันก็ลำบาก
เจ้าชู้ไม่ร้องกระต๊าก  โอ้ว่าความรัก
โหน่งโจ๊ะพรึมพรึม

( *)โอ้ว่า...ความรัก  สต๊อปเม้าท์ ไม่บอก
ระวังมันล้นกระฉอก มันช็อกมันช็อกครึมครึม
มัวแลดูกัน  หาสวรรค์ โหน่งโจ๊ะพรึมพรึม
สามคำอันแสนดูดดื่ม
หว่อ อ้าย หนี่ ไอ เลิฟ ยู

MunZaD:
 
 
 
 
เพลง บัญชารัก

นักร้อง ชัชฎาพร รักษณาเวส

...อยู่ห่างกัน คนละทิศ
ยังมามุ่งคิด ชอบกัน
ส่งใจและความฝัน เพ้อถึงทุกวัน
ไม่ยอมคิดห่วงสิ่งใด
เช่นอย่างเธอ เจอกับฉัน
ยังมาใฝ่ฝัน จากใจ
โอ้เธออยู่ห่างไกล หลายร้อยพันไมล์
คิดไปยิ่งแสนจะเศร้า
โอ้ยอดรักคนดี โธ่ป่านนี้
คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า
ส่วนใจฉันคิดทุกคราว หวังรักยืนยาว
นานเนาว์ตราบวันตาย
อยู่ห่างกัน คนละทิศ
เธอคงไม่คิด นอกใจ
แต่ยังหวั่นไม่หาย เพราะหนทางไกล
อาจทำให้รัก ร้าวรอน
...โอ้ยอดรักคนดี โธ่ป่านนี้
คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า
ส่วนใจฉันคิดทุกคราว หวังรักยืนยาว
นานเนาว์ตราบวันตาย
อยู่ห่างกันคนละทิศ เธอคงไม่คิดนอกใจ
แต่ยังหวั่นไม่หาย เพราะหนทางไกล
อาจทำให้รัก ร้าวรอน

จรีพร:

เพลง "วังบัวบาน"   
คำร้อง : นิท ศ.
ทำนอง : รุณ หงสวีณะ       
ผู้ขับร้อง : มัณฑนา โมรากุล

ร้อนลมหน้าแล้ง ใบไม้แห้งร่วงลอย
หล่นทะยอยเกลื่อนตา
ไหลตามกระแสน้ำพา
ลอยมาทั้งกลีบดอกไม้

จากหุบผาไหลมาสู่ในวังน้ำ
สุสานเทวีผู้มีความช้ำเหนือใคร
ดอกไม้ใบไม้ไหลมา
คล้ายพวงหรีดร้อยมาลา
ไหลมาบูชาบัวบาน

น้ำวังนี่หนอเป็นที่ก่อเหตุการณ์
ที่บัวบานฝังกาย
ยึดเอาเป็นหอเรือนตาย
รองกายไว้ด้วยแผ่นน้ำ

จากหุบเขาแนวไพรสู่ในเวียงฟ้า
ฝากไว้เพียงชื่อเลื่องลือเนิ่นช้าฝังจำ
ฝากคำสัตย์นำนึกตรอง
หลงทางสุดหวังคืนครอง
หลงตัวจำต้องลาระทม

เอาวังน้ำไหลเย็น
นี่หรือมาเป็นเมรุทอง
เอาน้ำตกก้องเป็นกลองประโคม
เอาเสียงจักจั่นลั่นร้องระงม
เป็นเสียงประโคมร้องต่างแตรสังข์

เพดานนั้นเอาเมฆฟ้า
ภูผานั้นต่างม่านบัง
ประทีปแสงจันทร์ใสสว่าง
อยู่เดียวท่ามกลางดงดอน

 

 :'e:7 :'e:36 :'e:77 :'e:36

chinda:

เพลง : จดหมายจากแนวหน้า
 ศิลปิน : ยอดรัก สลักใจ
 
..กลางดง ควันปืน
พี่ เฝ้ายืนสู้เหล่าร้าย
ได้ รับจดหมาย
น้อง โฉมฉายเจ้าส่งถึง
อยู่กลางพนา
เป็น เวลาทุ่มครึ่ง
เสียงปืน ปังปึง
ไม่คำนึงเลย เชียว
..จ.ม.เนื้อทอง
เขียน ใส่ซองสด สีฟ้า
พี่ ครึ้ม อุรา
ลืม ข้าวปลาไม่ แลเหลียว
หายเหนื่อยหายเพลีย
อ่านเสีย สิบกว่าเที่ยว
นั่งยิ้ม คนเดียว
ใจเหลียวถึงโฉม ตรู
..เสียง ปืนลั่นปัง
ตื่นภวังค์คลำหัวอก
คว้า เอ็ม สิบหก
หลบเข้ารบเตรียมต่อสู้
คลำหลวงพ่อองค์น้อย
คล้องสายสร้อยใจ ชื้นชู
ดีร้าย ขอสู้
ให้โลกรู้ นักรบไทย
..จ.ม.คนจน
ตอบ หน้ามนอยู่ แนวหลัง
ได้ รับ หรือ ยัง
เจ้าร้อยชั่งจำได้ไหม
นั่งตอบจ.ม.
เผลอ ก็ไม่ได้
หูตา ไม่ไว
หยุดหายใจ ทันที
               :'e:96

MunZaD:
เพลง มรดกเฮงซวย
นักร้อง คาราบาว  
 
 
ทันทีที่ได้ยินเสียงหลานชาย มาดูใจ เฒ่าผู้ยากไร้
แกก็จากไป ด้วยความชรา หลงเหลือ เพียงคราบน้ำตา
ของยายชรา กับหลานวัยเยาว์ ยายเฒ่า เฝ้าศพกับหลาน
จวบจน ชาวบ้านพบเห็น จึงรู้ ถึงความลำเค็ญ
(จึงรู้ ถึงความลำเค็ญ) ช่วยกันผ่อนทุกข์เข็ญ
ตามอัต-ต-ภาพ ชายชรา ตายอย่างยากจน
ปล่อยยายหลานสองคน รับมรดก จนต่อ
ต่อแต่นี้ มีแต่ยายหลาน ตื่นแต่เช้า ทำงาน
รับจ้าง ทอกระสอบ ศักดิ์ศรี ของความเป็นคน
ถึงแม้ยากจน ก็สู้ทน ทำกิน ไม่แบ มือขอใครกิน
ไม่มี ทรัพย์สินสมบัติ ชีวิตช่างติดขัด
ตามอัต-ต-ภาพ
ยังมีผู้เฒ่า ผู้ลากมากดี มั่งมี ซะจนล้นเหลือ
หากิน บนกบาลคนจน เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน
สา ละวน อยู่บนกองเงินกองทอง
ลูกหลาน บานเบ่งเยอะแยะ เที่ยวแทะ โลมผู้ทุกข์เข็ญ
ไม่รับ รู้ความลำเค็ญ (ไม่รับ รู้ความลำเค็ญ)
ช่วยผู้อื่นไม่เป็น ตามอุป นิสัย
คนรวยๆ ตายอย่างร่ำรวย ปล่อยลูกหลานเฮงซวย
รับมรดก รวยต่อ ต่อแต่นี้ มีแต่ลูกหลาน
ช่วยกันผลาญ ให้เพลิน มีเงินเป็นกระสอบ
บารมี ของคนร่ำรวย ถึงเป็นคนเฮงซวย
ก็ดูเป็น คนดี ญาติโยม เพื่อนฝูงยินดี
แต่ไม่มี คนที่จริงใจ แถมยังด่าให้หลัง
ตามอุปนิสัย ร่ำรวย มาด้วยลำขาลำแข้ง
ไม่มีใครสาปแช่ง อยากรวย ก็รวยไป
แต่ร่ำรวย ของชนชาติชาวไทย
แต่ร่ำรวย ของชนชาติชาวไทย
ที่ว่าลูกหลานจัญไร เพราะเรามีปู่ จัญไร
   

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version