รูปภาพเกี่ยวข้องกับบทเพลง > มาต่อเพลงกันเถอะ
มาต่อเพลงกันเด้อ หนุกๆ
จรีพร:
เพลง "เงา"
คำร้อง : ธาตรี
ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน
ผู้ขับร้อง : ยรรยงค์ เสลานนท์
เธอจ๋าเมื่อเธอหลับตาฝันไป
เธอฝันเรื่องใดเห็นใครในฝันหรือเปล่า
เพราะใครคนหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนเงา
เขาคอยปล่อยใจร้อนเร่ามารุกมาเร้าเฝ้าวอน
เธอลืมตาก็มาจูบเธอด้วยลม
กระแสลมที่พรมมันผสมโลมจูบแน่นอน
ไล้โลมโฉมเธอด้วยแสงจันทร
แสงดาวกระพริบเนตรวอน
เธอหนีนอนเงาหมอนจูบพลัน
ตื่นเช้าเงาคอยตาม
อยู่ทุกยามกลางวัน
จูบเธอเคล้าเธอเฝ้าเพ้อจำนรรจ์
มันบอกเธอนั้นรักกันรักกันนะเธอ
อยากรู้เงาเป็นใคร
ถ้าคิดไปคงเจอ
มองดีดีก็คงจะมีดอกเธอ
เจอะเขาคงต้องเจอ
มองแต่เธออย่างเพ้ออย่างหลง
ชาตรี:
เพลง หลงเพ้อ
นักร้อง สุเทพ วงศ์กำแหง
คำร้อง-ทำนอง ประเทือง บุญญประพันธ์
หลงไหลใฝ่ฝัน ทั้งวันทั้งคืน
หลงทั้งหลับหลงทั้งตื่น หลงจนขมขื่นใจช้ำ
หลงจนหมองไหม้ หลงจนใจระกำ
หลงเธอจนพร่ำ เหมือนถูกกระทำให้หลง
หลงไหลใฝ่เพ้อ ละเมอแทบคลั่ง
หลงรักเธอเพ้อภวังค์ หลงจนเหลือหยั่งใจหลง
หลงเธอแทบบ้า หลงจนข้าพะวง
หลงเธอจนงง ลุ่มหลงมัวเมาเจียนบ้า
ความรักมัวเมา ยังไม่เท่าความหลง
ความรักว่างง ความหลงนี้ยังร้ายกว่า
หลงเธอ จนไม่ลืมตา
หลงไหลใฝ่หา อนิจจารักเอ๋ย
***หลงไหลใฝ่ถึง คนึงอยู่ได้
หลงรักเธอเพ้อพิไร หลงจนร้องไห้ก็เคย
หลงเธอจนเศร้า หลงเพียงเงาเจ้าเอย
หลงจนเหลือเอ่ย ไม่เคยหลงใครเท่าเธอ...
:'e:108
จรีพร:
เพลง "สู่นรก"
คำร้อง : สาโรจน์ เสมทรัพย์
ทำนอง : แสงทิพย์ วงศ์ระวี
ผู้ขับร้อง : ธานินทร์ อินทรเทพ
เธอสร้างความเจ็บช้ำเรื่อยมา
ฉันแทบเป็นบ้า เลือดตาฉันแทบไหลหล่น
ฉันเองเกือบจะเสียผู้เสียคน
ห้องใจทุกห้องหมองหม่น
เหลียวหาคนปลอบใจ
แรงแห่งใจเท่านั้นที่มี
ยึดใจฉันนี่ ให้ชีวิตยืนไว้ได้
ฉันยอม สู้ทนรับความปราชัย
สักวันฉันคงยิ้มได้
เย้ยหยันให้เต็มตา
บัดนี้ หนทางที่เธอฝัน
คิดว่าสู่สวรรค์
พลันมืดมนหนักหนา
ด้วยชายที่เธอได้มา
ร่วมเรียงอุรา คือแมงดาปีกทอง
เธอก่อกรรมทำฉันเช่นไร
ผลกรรมคงได้ กลับไปทั้งขึ้นทั้งล่อง
ฉันทาย ไม่ช้าน้ำตาเธอนอง
ซี่โครงต้องเหน็บฝาห้อง
หมองไหม้สู่นรก
ชาตรี:
เพลง นรชาติวางวาย
นักร้อง ไมค์ ภิรมย์พร
คำร้อง-ทำนอง พชร วิจารณญาณ
เรียบเรียง พชร วิจารณญาณ
นรชาติ ติวางวาย
มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตทั่ว แต่ชั่วดี
ประดับไว้ ในโลกา
(นรชาติ ติวางวาย
มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตทั่ว แต่ชั่วดี
ประดับไว้ ในโลกา)
รวยจน ไม่ใช่กรรมพันธุ์
เงินใครเงินมัน ไม่เคยไปอิจฉา
เงินทอง ไม่ใช่ศักดิ์ศรี
วัดชั่ววัดดี อยู่ที่สู้ปัญหา
เวลา พิสูจน์ค่าของคน
ดีเลว ไม่ได้เกี่ยวกับจน
ถึงแม้ขัดสน แต่ไม่จนปัญญา
(นรชาติ ติวางวาย
มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตทั่ว แต่ชั่วดี
ประดับไว้ ในโลกา)
ปลาเป็น มันต้องว่ายทวนน้ำ
การงานลุยทำ ไม่รอวาสนา
เวลา ไม่เคยคอยใคร
นั่งรอท้อใจ ไม่ช่วยอะไรขึ้นมา
หันหลัง ให้กับความเกียจคร้าน
หันหน้า ให้กับความขยัน
ไม่ช้าไม่นาน สวรรค์คงเมตตา
---(เอ้ยย่ะ เฮ้ยย่ะ)..
คิดดี ก็ต้องได้ดี (คิดไม่ดี ก็ได้ไม่ดี)
คิดดี ก็ต้องได้ดี (คิดไม่ดี ก็ได้ไม่ดี)---
ปลาเป็น มันต้องว่ายทวนน้ำ
การงานลุยทำ ไม่รอวาสนา
เวลา ไม่เคยคอยใคร
นั่งรอท้อใจ ไม่ช่วยอะไรขึ้นมา
หันหลัง ให้กับความเกียจคร้าน
หันหน้า ให้กับความขยัน
ไม่ช้าไม่นาน สวรรค์คงเมตตา
(นรชาติ ติวางวาย
มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตทั่ว แต่ชั่วดี
ประดับไว้) ในโลกา...
:'e:78
จรีพร:
เพลง "กายเป็นของฉันใจปันคนอื่น"
คำร้อง/ทำนอง : ประดิษฐ์ อุตตะมัง
ผู้ขับร้อง : รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส
กายเป็นของฉัน ใจปันคนอื่น
ฉันขมฉันขื่นฉันเคยนึกชื่น เมื่อคืนวิวาห์
แต่ภายหลังจึงได้รู้ว่า
คุณอยู่กับบ่อน้ำตา ดังว่าหัวใจสลาย
ก็ใครจะรู้คนนี้คู่ก่อ ชิดเชยพร่ำพลอด
โถตาฉันบอดแล้วบอดทั้งใจ
ถ้าหากรู้จะไม่ชิดใกล้
ควรบอกว่าคุณรักใคร คุณพอใจก็จะไม่ว่า
นี่เหมือนหุ่นยนต์ที่เดินได้
มีเครื่องกลไกซ่อนอยู่ภายใน แล้วแต่บัญชา
จะจูบจะกอดก็ไม่เคยขัดศรัทธา
โอนอ่อนตามปรารถนา แต่ทว่าหุ่นไร้หัวใจ
กายเป็นของฉันใจนั้นไม่ว่าง
คิดเหินคิดห่าง ฉันไม่ขวางทางของคุณหรือใคร
อยากจะได้ตัวและหัวใจ
ถ้าหากให้เพียงร่างกาย จงเอากายคืนไปเสียเถิด
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version