รายการเจาะข่าวเด่นสรยุทธ ช่อง 3 ได้สอบถามข้อเท็จจริงเรื่องแบคทีเรียกินเนื้อคนจาก นพ.เสรี หงษ์หยก อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต โดย นพ.เสรี หงษ์หยก เปิดเผยว่า วันที่ 11 กรกฎาคม 2557 ผู้เสียชีวิตได้ถูกเงี่ยงปลาทับทิบตำที่นิ้วโป้ง จนกระทั่งผู้เสียชีวิตรู้สึกปวดที่บาดแผลจึงไปพบแพทย์ และช่วงเช้าวันที่ 14 กรกฎาคม 2557 ผู้เสียชีวิตเดินเตะตรงบันได จึงไปพบแพทย์อีกครั้งแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก จนกระทั่งในเวลาต่อมา ขาของผู้เสียชีวิตมีอาการบวมเขียว และเย็นผิดปกติ ทำให้ต้องไปพบแพทย์อีกครั้ง จึงทราบว่า กล้ามเนื้อฉีก และเมื่อแพทย์ผ่าแผลที่ขาของผู้เสียชีวิต ก็พบว่า มีกลิ่นเหม็นเหมือนเนื้อเน่า อีกทั้งบริเวณดังกล่าวยังมีลักษณะยุ่ย คล้ายเนื้อหมักกับยางมะละกอ เบื้องต้น คาดว่า ผู้เสียชีวิตติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด โดยคาดว่า ผู้เสียชีวิตได้รับเชื้อแบคทีเรียมาตั้งแต่ตอนที่ถูกเงี่ยงปลาทับทิบตำแล้ว โดยเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้อาจอยู่ตามลำตัว ก้างปลา เงี่ยง และซอกเหงือก ดังนั้น หากก้างปลาตำก็อาจได้รับเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย
ด้าน นพ.เกรียงไกร จีระแพทย์ รอง ผอ. รพ.นนทเวช ระบุว่า เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวสามารถพบได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ และเมื่อได้รับเชื้อแบคทีเรียนี้เข้าไปก็มีโอกาสเสียชีวิตสูง และบางรายอาจถึงขั้นตัดขาทิ้ง เพราะเชื้อวิ่งไปตามกระแสเลือด ทำให้อวัยวะสำคัญล้มเหลว ดังนั้น หากใครที่โดนเงี่ยงปลาตำ ควรบีบเลือดออกให้มากที่สุด แล้วใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่หากเกิดแผลบวม เป็นไข้ ควรรีบไปพบแพทย์ แล้วแจ้งข้อมูลให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
แต่อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกไปกับเรื่องนี้จนไม่กล้ารับประทานปลา เพราะหากนำปลาไปทำการปรุงให้สุกก็สามารถทานได้ตามปกติ

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ เฉาก๊วย