ผู้เขียน หัวข้อ: มรดกโลกแห่งใหม่ 19 สถานที่จากยูเนสโก  (อ่าน 1729 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1108



ยูเนสโก เพิ่ม 19 สถานที่แห่งใหม่เป็นมรดกโลก

การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 37 ซึ่งจัดประชุม ณ กรุงพนมเปญ
ประเทศกัมพูชา ที่ผ่านมา คณะกรรมการมรดกโลกขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม
แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกแห่งใหม่  จำนวน 19 แห่ง
ซึ่งแบ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 14 แห่ง และ มรดกโลกทางธรรมชาติ 5 แห่ง

    อยู่ในทวีปเอเชีย 8 แห่ง ได้แก่
       Al Zubarah Archaeological Site การ์ตา
       Cultural Landscape of Honghe Hani Rice Terraces จีน
       Fujisan, sacred place and source of artistic inspiration ญี่ปุ่น
       Golestan Palace อิหร่าน
       Hill Forts of Rajasthan อินเดีย
       Historic Monuments and Sites in Kaesong เกาหลีเหนือ
       Tajik National Park (Mountains of the Pamirs) ทาจิกิสถาน
       Xinjiang Tianshan จีน
       
       อยู่ในทวีปยุโรป 6 แห่ง ได้แก่
       Ancient City of Tauric Chersonese and its Chora ยูเครน
       Bergpark Wilhelmshöhe เยอรมนี
       Medici Villas and Gardens in Tuscany อิตาลี
       University of Coimbra - Alta and Sofia โปรตุเกส
       Wooden Tserkvas of the Carpathian Region in Poland and Ukraine โปแลนด์ และ ยูเครน
       Mount Etna อิตาลี
       
       อยู่ในทวีปอัฟริกา 2 แห่ง ได้แก่
       Historic Centre of Agadez ไนเจอร์
       Namib Sand Sea นามิเบีย
       
       อยู่ในทวีปอเมริกา 2 แห่ง ได้แก่
       Red Bay Basque Whaling Station แคนาดา
       El Pinacate and Gran Desierto de Altar Biosphere Reserve เม็กซิโก
       
       และ อยู่ในภูมิภาคโอเชียนเนีย 1 แห่ง ได้แก่
       Levuka Historical Port Town ฟิจิ


1.เทือกเขาเทียนซาน (Xinjiang Tianshan) ประเทศจีน



2.ทะเลทรายนามิบ ( Namib Sand Sea) ประเทศนามิเบีย



3.ภูเขาไฟเอตนา  (Mount Etna) ประเทศอิตาลี



4.อุทยานแห่งชาติทาจิค (Tajik National Park (Mountains of the Pamirs)) ประเทศทาจิกิสถาน



5. ปล่องภูเขาไฟเอล ปินากาเต และพื้นที่สงวนชีวมณฑลแกรน เดเซียร์โต เด อัลตา 
(El Pinacate and Gran Desierto de Altar Biosphere Reserve) ประเทศเม็กซิโก




6.ป้อมปราการฮิลล์ ฟอร์ตส  แห่งราชาสถาน ( Hill Forts of Rajasthan) ประเทศอินเดีย



7.กลุ่มโบสถ์ไม้เซอร์ควาส ( Wooden Tserkvas of the Carpathian Region in
Poland and Ukraine) ประเทศโปแลนด์และยูเครน




8. เขตโบราณสถานอัล ซูบาเราะห์  (Al Zubarah Archaeological Site) ประเทศกาตาร์



9. ภูเขาไฟฟูจิ (Fujisan, sacred place and source of artistic inspiration)ประเทศญี่ปุ่น



10. เรด เบย์ บาสก์ เวลลิง สเตชั่น  (Red Bay Basque Whaling Station)ประเทศแคนาดา



11.เมืองโบราณเทาริค เชอร์โซเนส (Ancient City of Tauric Chersonese and its Chora)
ประเทศยูเครน




12.ป้อมโบราณสถานเมืองแกซอง   (Historic Monuments and Sites in Kaesong)
ประเทศเกาหลีเหนือ




13. เมดิซี วิลลาส์ แอนด์ การ์เดน ( Medici Villas and Gardens in Tuscany)
ในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี



 
14.วนอุทยาน แบร์กพาร์ค วิลเฮล์มสเฮอเฮ่อ ( Bergpark Wilhelmsh he)ประเทศเยอรมนี



15.พระราชวังโกเลสตาน  (Golestan Palace)ประเทศอิหร่าน



16. เมืองท่าประวัติศาสตร์เลวูกา (Levuka Historical Port Town)ประเทศฟิจิ



17.มหาวิทยาลัยโกอิมบรา (University of Coimbra – Alta and Sofia)
ประเทศโปรตุเกส




18. ทุ่งนาขั้นบันได หาหนี  (Cultural Landscape of Honghe Hani Rice Terraces)
ในเมืองหงเหอ มณฑลยูนนาน ประเทศจีน




19. ศูนย์ประวัติศาสตร์อากาเดซ  ( Historic Centre of Agadez) ประเทศไนเจอร์



     ปัจจุบันยูเนสโกขึ้นทะเบียนสถานที่สำคัญ 981 แห่ง จาก 160 ประเทศทั่วโลก ให้เป็นมรดกโลก
ในจำนวนนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 759 แห่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ 193 แห่ง และอีก 29 แห่ง
จัดอยู่ในหมวดหมู่มรดกโลกผสมทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ


     สำหรับมรดกโลกแห่งใหม่ที่น่าสนใจ อาทิ Fujisan หรือ ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการประกาศ
ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม แทนที่จะเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ซึ่งในอดีตนั้นประเทศญี่ปุ่นได้เคยเสนอ
ชื่อภูเขาไฟฟูจิให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแล้ว แต่ไม่ได้รับการรับรอง จนล่าสุด ได้รับการประกาศให้เป็น
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ด้วยเหตุผลว่า ภูเขาไฟฟูจิเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างศิลปะแขนงต่างๆ มากมาย
และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่เชื่อมโยงลัทธิชินโตเข้ากับศาสนาพุทธ เป็นการเชื่อมโยง
มนุษย์เข้ากับวัฒนธรรม
       
       Historic Monuments and Sites in Kaesong หรือ เมืองโบราณแกซอง สาธารณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ)
ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่เนื่องด้วยในอดีตนั้นเคยเป็นศูนย์กลางของ
อาณาจักรโครยอ ที่รวมคาบสมุทรเกาหลีเป็นหนึ่งเดียวกันเมื่อในอดีต มีการรวบรวมคุณค่าทั้งด้านการเมืองการปกครอง
วัฒนธรรม ปรัชญา และด้านจิตวิญญาณของอาณาจักรแห่งนี้ไว้ที่นี่ โดยภายในเมืองแกซองมีโบราณสถานต่างๆ
ทั้งหลุมฝังศพของเชื้อพระวงศ์ กำแพงและป้อมโบราณ รวมถึงโรงเรียนเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี ซึ่งนับเป็นโบราณสถาน
แห่งที่สองของเกาหลีเหนือที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ถัดจากสุสานโบราณของอาณาจักรโคคูรยอ
ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2004
       
       และในประเทศจีน ซึ่งมีมรดกโลกใหม่ถึง 2 แห่ง คือ Tian Shan Mountain Range หรือ เทือกเขาเทียนซาน
ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทาง
ธรรมชาติ โดยเทือกเขาเทียนซานแห่งนี้ มีชื่อเสียงในด้านวิวทิวทัศน์ของยอดเขาหิมะปกคลุมที่สวยงาม ไล่เรียงลงมาถึง
ผืนทะเลทรายและทุ่งหญ้าที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ทำการปศุสัตว์ของประชาชนในท้องถิ่น
                 
       และ Cultural Landscape of Honghe Hani Rice Terraces หรือ ทุ่งนาขั้นบันไดฮาหนี  ตั้งอยู่ในหุบเขาลึก
เขตหงเหอ เมืองหยวนหยาง ในมณฑลอวิ๋นหนัน (หรือ ยูนนาน) ประเทศจีน โดยที่ประชุมได้เล็งเห็นถึงความสวยงามและ
ความสำคัญในการอนุรักษ์พื้นที่ทุ่งนาขั้นบันไดฮาหนีแห่งนี้ ที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามซ่อนเร้นกลิ่นอายวัฒนธรรม
การดำรงชีวิตของชาวจีนพื้นถิ่น


CliPs

[youtube=650,450]https://www.youtube.com/watch?v=ed51FM0gPJQ&feature=player_embedded [/youtube]

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ข้อมูลและภาพ : edition.cnn.com
เรียบเรียงโดย : Travel MThai




+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16499

ออฟไลน์ กวาง นครสวรรค์

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 30
    4
Re: มรดกโลกแห่งใหม่ 19 สถานที่จากยูเนสโก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 27/มิ.ย./13 16:29น. »

อยากไปทุกที่เลย ^^

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16499