เมื่อช่วงเรียนมัธยมต้น เริ่มแตกเนื้อหนุ่ม ในอำเภอที่ผมอยู่มีโรงหนังชื่อ ศรีอรัญพัฒนา เป็นโรงหนังที่คนทั้งอำเภอในเขคเทศบาล และหมู่บ้านรอบนอกที่มาตลาดสด
ยามเช้า จะมายืนชมใบปิดประกาศหนัง หากมีหนังที่อยากจะชม ก็ชวนเพื่อนมาเป็นเพื่อนตอนขากลับ เพราะมันมืด จำได้ตอนเด็กมาก โรงไฟฟ้าเขาจะจ่ายกระแสไฟ
แค่สามทุ่ม ก็มืดทั้งเมือง ผมยังจำได้ว่า แม่เคยให้มาซื้อน้ำมันก๊าด ร้านป้าน้อยรวมทั้งยัง ซื้อข้าวปลาย (ข้าวหักละเอียดที่คนเขาซื้อมาต้มให้หมูกิน ผสมผักบุ้ง
ผักตบชวา ) มาต้มกิน สมัยนั้น ยังเปิดข้าวด้วยมือ ยังใช้จานและช้อนสังกะสี บ้านคนมีตังค์ก็ใช้ตะเกียงเจ้าพายุ ผมใช้ตะเกียงที่เป็นโคมกระป๋องธรรมดา มีด้ายเป็นไส้
ยังจำได้ในบรรยากาศเดิมๆ ตอนนั้นพ่อเป็นทหารเรืออยู่สัตหีบ นานๆ มาบ้านสักครั้ง ช่วงอายุ 14 -15 เริ่มมองเพศตรงข้าม ก็มีแม่ค้าบัวลอย สลิ่ม อายุคงไล่เลี่ย แต่
เพราะผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ รูปร่างเขาเหมือนผู้ใหญ่ กว่าพวกเรา สวยมาก ค่ำๆ ไม่ได้ไปดูหนัง ก็เดินดูโปรแกรม แล้วมานั่งมองแม่ค้าสลิ่ม ข้างโรงหนัง มีเพลงฟังด้วย
พร้มกับโฆษกประจำโรง เขาจะประกาศชนเชิญให้เข้ามาชม บางวันมีหนังควบ สองเรื่อง หากเป็นหนังไทย ฉายเรื่องเดียวเท่านั้น ในวัยหนุ่มทุกคนน่าจะเคยสัมผัสบรร
ยากาศอย่างผมบ้าง ขอบคุณอย่างสูงครับพี่ชาติ อ้อ..ช่วงปี2523 ไปจัดสวนที่โรงพยาบาลสามย่าน ระยอง ก็ยังไปกินไข่หวานที่โรงหนังสามย่าน ระยองเลย หน่านั้น
ไปจังหวะทุเรียน เงาะ มังคุดออกพอดี เพียบ.. อิ่ม อร่อย ทั้งอาหารทะเล คุณหมอเจ้าของโรงพยาบาลจัดหนักให้ทานทุกวัน ทั้งที่พักก็พักฟรี พยาบาลก็สวย..
สามสิบกว่าปีผ่านมา แม่ค้าไข่หวาน คนนั้น คงเป็นยายเป็นย่าไปแล้วแน่เยครับ ..