ผู้เขียน หัวข้อ: โรแมนติกกลางเล โฮมสเตย์เกาะยอ...  (อ่าน 2026 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1108



โรแมนติกกลางเล โฮมสเตย์เกาะยอ...ไม่ง้อโรงแรม 5 ดาว
โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)


โฮมสเตย์หรือขนำสเตย์กลางทะเลสาบ กิจกรรมท่องเที่ยวที่มาแรงแห่งเกาะยอ

       หาดใหญ่เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลา สำหรับการล่องใต้ไปหาดใหญ่หนล่าสุดของผมเที่ยวนี้
ผมเลือกตะลอนเที่ยวดะไปทั้งหาดใหญ่ สงขลา รวมไปถึง“เกาะยอ” เกาะแห่งวิถีชีวิต ที่แม้จะเคยไปเยือน
มาหลายครั้ง แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อต่อการเที่ยวแห่งนี้ นี่ไม่ใช่เป็นการเยินยอ แต่เป็นเพราะส่วนตัวแล้วชื่นชอบ
ในวิถีแบบนี้ ชอบในบรรยากาศเรียบง่าย พอเพียงแต่ทรงเสน่ห์ของเกาะนี้


กลุ่มกระต่ายขูดมะพร้าวโบราณที่จัดแสดงใน พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา

       “เกาะยอ” มากของดี กับที่เที่ยวไฮไลต์
       
       เกาะยอ (อ.เมือง จ.สงขลา) เป็นเกาะในทะเลสาบสงขลาตอนล่าง มีสะพานติณสูลานนท์สร้างเป็น
2 ช่วง เชื่อมแผ่นดินใหญ่ทั้งฝั่ง อ.เมือง และ อ.สิงหนคร เกาะยอแม้เป็นเกาะขนาดกะทัดรัด (มีพื้นที่ประมาณ
9,275 ไร่ : ข้อมูลจากเอกสารนำเที่ยวของ ททท.) แต่กลับมีของดีและมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจไม่น้อย
เริ่มกันที่ “พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา” ที่นี่ล้วนแต่คัดเอาของเด็ดๆ มาจัดแสดง
ทั้งของจริง ของจำลอง และสื่อผสม นับเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ชั้นเยี่ยมของไทย


ยามเย็นที่ทะเลสาบเกาะยอ

       นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังมีจุดชมวิวให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ทะเลสาบสงขลา ชุมชนเกาะยอ และชมพระอาทิตย์ตก
ชั้นดีที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ไม่น้อย ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์ยังมี “สะพานติณสูลานนท์”(ช่วงที่ 2) หรือสะพานติณฯ
สะพานที่เคยยาวที่สุดในเมืองไทยให้ทัศนา


เจดีย์สมเด็จเจ้าเกาะยอ ศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะยอ

       มาดูแหล่งท่องเที่ยวประเภทวัดวาอารามกันบ้าง บนเกาะนี้มี 3 วัดเด่นๆ ให้เที่ยวชมกัน เริ่มจาก “วัดพระนอนแหลมกะพ้อ”
วัดที่สร้างขึ้นในสมัย ร.3 มีโบสถ์เก่าแก่สวยงาม และมีไฮไลต์อยู่ที่พระพุทธรูป (นอน) ปางปรินิพพานองค์โตที่สร้างอย่างสวยงาม
ต่อกันด้วย“วัดเขากุฏิ” ที่ตั้งอยู่บนยอดเขากุฏิ จุดสูงที่สุดของเกาะยอ ที่วัดนี้มีศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะยอ คือ “เจดีย์สมเด็จ
เจ้าเกาะยอ” ที่สร้างอย่างสมส่วนสวยงามให้สักการบูชา ทุกๆ ปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 บนเกาะยอจะมีงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิ
ที่จัดสืบต่อกันมาช้านาน นับเป็นบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธา


กุฏิเรือนไทยโบราณอันสวยงามคลาสสิกที่วัดท้ายยอ

       ปิดท้ายกันที่ “วัดท้ายยอ” วัดที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะ อายุกว่า 400 ปี (บ้างว่ากว่า 200 ปี) มีไฮไลต์เป็น “กุฏิเรือนไทยปั้นหยา”
ที่สร้างด้วยไม้ทรวดทรงสมส่วนสวยงาม หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาเกาะยออันเป็นเอกลักษณ์ ตัวเสาเรือน (กุฏิ) สร้างแบบภาคใต้
โบราณคือไม่ฝังลงดิน แต่จะใช้วิธีตั้งเสาไม้อยู่บนฐานปูนแทน นับเป็นอีกหนึ่งความคลาสสิกแห่งเกาะยอที่หาชมที่อื่นไม่ได้ง่ายๆ
นอกจาก 3 วัดที่กล่าวมาแล้ว ที่เกาะยอยังมีวัดน่าสนใจ เช่น วัดแหลมพ้อ วัดโคกเปี้ยว วัดเขาบ่อ ให้ผู้สนใจได้เข้าวัดไปไหว้พระ
ทำบุญกันตามจิตศรัทธา


จำปาดะขนุน

       “เกาะยอ” มากของดี บนวิถีพอเพียง
       
       ความที่เป็นเกาะดินดำน้ำชุ่ม ทำให้เกาะยอมีความเด่นมากในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชาวบ้านที่นี่นิยมปลูกผลไม้แบบ
“สวนสมรม” คือปลูกหลายชนิดผสมผสานกันไปด้วยวิธีการเกษตรธรรมชาติ ใช้ปุ๋ยชีภาพ ปราศจากสารเคมี ผลไม้บนเกาะยอจะผลัดกัน
ออกผลผลิต ที่นี่จึงมีผลไม้สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้กินกันตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น มังคุด เงาะ ส้มโอ มะพร้าว ขนุน ทุเรียน กระท้อน
ละมุดหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “สวา” รวมไปถึงผลไม้ดาวเด่นอย่าง “จำปาดะ” ที่กินอร่อยทั้งสดและทอดคล้ายกล้วยแขก


ชาวบ้านสานโคระเพื่อนำไปห่อจำปาดะ

       ชาวบ้านบนเกาะยอเขามีวิถีการห่อจำปาดะที่ไม่เหมือนใครด้วย“โคระ” เป็นทางมะพร้าว(ใบมะพร้าว) มาขัดสานคล้ายตะกร้ายืดหยุ่นได้
แต่การห่อโคระจะต้องห่อตอนที่มันแห้งเป็นสีน้ำตาล เพราะมันสามารถป้องกันแมลงวันทองไม่ให้เจาะเข้าไปกินเนื้อจำปาดะได้ชะงัดนัก
ภูมิปัญญาจำปาดะบนเกาะยอยังได้รับการต่อยอดออกไปเมื่อมีการนำสายพันธุ์จำปาดะไปผสมกับสายพันธุ์ขนุนเกิดเป็น “จำปาดะขนุน”
อีกหนึ่งผลไม้ขึ้นชื่อของเกาะยอ ไหนๆ ก็พูดถึงของกินแล้ว บนเกาะยอยังมีของกินขึ้นชื่อ อย่าง “ข้าวยำ” ที่อุดมไปด้วยพืชสมุนไพรให้ลิ้มลอง
“ปลากะพง (ขาว)” ที่มีรสชาติดีติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย และ “สาร่ายผมนาง” ของกิน(ตามฤดูกาล) มีลักษณะคล้ายเส้นหมี่
นำมายำกินแกล้มเบียร์อร่อยนักแล


ยำสาหร่ายผมนางที่แม่ค้าพร้อมปรุง เสิร์ฟขาย

       นอกจากนี้เกาะยอยังมีการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจที่เหมาะต่อการทำเคียงคู่กับการทองเที่ยวเชิงเกษตรไม่น้อย
สำหรับหนึ่งในไฮไลท์ที่แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งภูมิปัญญาของชาวเกาะที่ได้รับการยอมรับไปทั่วประเทศก็คือ “ผ้าทอเกาะยอ” ภูมิปัญญาชาวบ้าน
ที่สั่งสมฝีมือกันมาอย่างยาวนาน


ผู้ชายแท้ๆทอผ้าหาชมไม่ได้ง่าย แต่มีให้ชมที่เกาะยอ

       ผ้าทอเกาะยอ โดดเด่นสวยงามด้วยฝีมือทออันประณีตและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะลาย“ราชวัตร” ที่ได้รับพระราชทานนามจาก
รัชกาลที่ 7 ร่วมด้วยลายเด่นๆ อย่าง ลายดอกพะยอม ลายดอกพิกุล ลายลูกแก้ว ไม่เพียงเท่านั้นการทอผ้าของบางบ้าน ของช่างมือบางคนที่นี่
ยังจัดอยู่ในระดับอันซีนไทยแลนด์ เพราะทอด้วยฝีมือของผู้ชาย ที่ไม่น่าเชื่อหนุ่มใต้หน้าเข้ม ผิวคล้ำ หนวดครึ้ม กล้ามแข็ง จะทอผ้าออกมาได้สวยงามนัก
อ้อ!?! ผู้ชายทอผ้าที่นี่ เท่าที่ผมเห็นเป็นชายแท้ ไม่ใช่ชายเทียม ตัวเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงแต่อย่างใด


เกาะยอโฮมสเตย์ของลุงเดชา ผู้บุกเบิกโฮมสเตย์แห่งเกาะยอ

       โรแมนติกกลางเล โฮมสเตย์ที่เกาะยอ
       
       บนเกาะยอยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนอันทรงเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือกิจกรรมการพักค้างแบบโฮมเสตย์ ที่ถือว่ามาแรงมาก
ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา พูดถึงการถือกำเนิดของกิจกรรมโฮมสเตย์บนเกาะยอ ต้องขอให้เครดิตกับ “ลุงเดชา มีสุวรรณ” ผู้คิดริเริ่มทำโฮมสเตย์เป็น
เจ้าแรก โดยหลังจากไปเที่ยวดูงานที่โฮมสเตย์ท่าด่าน(จ.นครนายก)กลับมา ลุงเดชาก็เกิดแนวคิดว่า ที่ผ่านๆมา มีคนมาเที่ยวเกาะยอกันเยอะ
แต่ส่วนใหญ่จะมาแค่แวะเที่ยวครึ่งวันหรือเต็มที่ 1 วัน หรือมาแค่แวะกินอาหารแล้วก็กลับ ลุงจึงคิดว่า จะทำอย่างไรให้คนอยู่เกาะยอยาวขึ้นเพื่อ
ให้รายได้ตกแก่ชุมชนบ้าง เพราะที่ผ่านมารายได้ส่วนใหญ่มักจะตกอยู่แค่ร้านอาหารเท่านั้น


ลุงเดชา มีสุวรรณ

       จากนั้นลุงเดชาได้นำ“ขนำ” ที่สร้างไว้เฝ้ากระชังปลาในทะเลสาบมาทำเป็นโฮมสเตย์ (เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548) โดยลุงบอกกับผมว่า
ที่เกาะยอชาวบ้านส่วนหนึ่งมีขนำเฝ้าปลาอยู่แล้ว น่าจะทำปรับปรุงเป็นโฮมสเตย์ได้ เพราะบรรยากาศดี และเราไม่ต้องเหนื่อยเฝ้าปลา
เพราะนักท่องเที่ยวจะช่วยเฝ้าปลาให้ไปในตัว อย่างไรก็ดีก้าวๆแรกในการทำโฮมสเตย์ ลุงเดชาถูกคนที่ไม่เข้าใจมองว่าบ้า แต่เมื่อกิจการไปได้ดี
สร้างชื่อให้กับเกาะยอ ปัจจุบันก็ได้มีผู้ที่เดินตามรอยลุง จัดทำโฮมสเตย์ขึ้นมาให้เป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยว ซึ่ง ณ วันนี้ที่เกาะยอมีโฮมสเตย์
อยู่นับสิบหลังให้เลือกพัก


2 ขนำกลางทะเลที่ลุงเดชาปรับเปลี่ยนเป็นโฮมสเตย์

       สำหรับผมกับพรรคพวก แน่นอนว่างานนี้พวกเราเลือกพักที่โฮมสเตย์ของลุงเดชาที่ใช้ชื่อตรงๆจำง่ายว่า “เกาะยอโฮมสเตย์”
เกาะยอโฮมสเตย์ของลุงเดชา มีที่พักอยู่ 3 หลัง เป็นขนำสเตย์ในทะเลสาบ 2 หลัง โฮมสเตย์ริมน้ำ 1 หลัง ซึ่งผมกับสมัครพรรคพวกที่ไปกันหลายคน
ขอเลือกพักแบบขนำสเตย์หลังใหญ่มีห้องนอน โถง ระเบียง ห้องน้ำ ครัว มีไฟฟ้า มีน้ำจืด ทีวี วิทยุ ที่นอนหมอนมุ้ง ไว้บริการสะดวกสบาย


พักผ่อนในขนำ ชมบรรยากาศใกล้ค่ำกลางทะเล

       ขนำสเตย์หลังนี้แม้จะดูเป็นที่พักธรรมดา แต่ว่าในเรื่องของบรรยากาศนี่สิ สุดยอด ผมขอยกนิ้วโป้งให้ มันเป็นที่พักกลางทะเลสาบ
ที่สุดแสนจะทรงเสน่ห์ (ห่างจากฝั่งประมาณ 300 เมตร ต้องนั่งเรือเล็กออกไป) ท่ามกลางบรรยากาศคืบก็ทะเลศอกก็ทะเล มีกระชังปลา
รายล้อม ยามเย็นในวันฟ้าเป็นใจสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกทะเลได้อย่างงดงาม ส่วนยามค่ำคืนมีลมเย็นๆ โชยพัด เคียงคู่ไปกับเสียง
คลื่นลมที่เห่กล่อม บนท้องฟ้ามีดาวเคียงเดือนส่องแสงเป็นเพื่อนแก่ผู้ที่มาพักค้างที่นี่ ด้วยบรรยากาศแบบนี้ มันก็ทำให้คนที่ได้รับอิทธิพล
ของโก้วเล้ง ผู้ไม่ชอบร่ำสุรา แต่ชอบในบรรยากาศการร่ำสุรา อดไม่ได้ที่จะต้องดื่มด่ำกับบรรยากาศคู่ไปกับการดื่มจนถึงเช้า เพราะบรรยากาศ
แบบนี้ใช้ว่าโรงแรม 5 ดาวจะจัดให้ได้


วิถีการทำประมงพื้นบ้านของคนเกาะยอ

       นอกจากบรรยากาศของความโรแมนติกแบบบ้านๆ เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของโฮมสเตย์ที่นี่ที่ผมชอบมากก็คือ แนวคิดของลุงเดชาที่ต้องการ
ให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตประมงพื้นบ้านของชาวเกาะยอ ซึ่งลุงแกได้จัดกิจกรรมนั่งเรือชมความสวยงามของทะเลสาบสงขลา ไปดูการกู้ไซ
การเลี้ยงปลา การจับปลาในกระชัง และสัมผัสกับการทำประมงพื้นบ้านอื่นๆ เพื่อให้ผู้สนใจได้นั่งเรือไปสัมผัส สายลม แสงแดด ไปรับรู้ว่า กุ้ง ปู
ปลา ที่เรากินกันอยู่นั้น กว่าจะได้มา มันมีกระบวนการยากลำบากแค่ไหน ยิ่งเดี๋ยวนี้ทรัพยากรธรรมชาติร่อยหรอ เรายิ่งต้องช่วยกันกินใช้ทรัพยากร
อย่างคุ้มค่า


ทะเลสาบเกาะยอ กับอุปกรณ์จับปลาพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์

       ด้วยความเป็นผู้บุกเบิกทำโฮมสเตย์ มีแนวคิดก้าวไกล แต่ยังใส่ใจกับการอนุรักษ์ทรัพยากรและวิถีชุมชน รวมถึงเอาใจใส่ จริงใจ และสร้างความ
ประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวผู้มาใช้บริการ ทำให้เกาะยอโฮมสเตย์ของลุงเดชาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือ “รางวัลกินรี”
(Thailand Tourism Awards) ในปีนี้ (อีกไม่นานเราคงจะทราบผล)
       
       นี่นับเป็นอีกหนึ่งในกำลังใจที่ไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้ ลุงเดชาแกบอกกับผมว่า
       
       “ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เพราะสุขใจที่ได้ทำ”

       ******************************************
       
       สอบถามรายละเอียดการท่องเที่ยวบนเกาะยอได้ที่ อบต.เกาะยอ 0-7445-0433 ส่วนผู้สนใจพักค้างที่เกาะยอโฮมสเตย์ของลุงเดชา สอบถามข้อมูลได้ที่ 08-7633-5476


>>>>>>>>>>>
นำมาจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000068358


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=15888

Re: โรแมนติกกลางเล โฮมสเตย์เกาะยอ...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 13/มิ.ย./13 22:02น. »

โฮมสเตย์หรือขนำสเตย์กลางทะเลสาบ สุดยอดเลย ค่ะ อยาำกไปอยู่จัง มีผู้ชายแท้ๆทอผ้าด้วย ขอบคุณมาก นะคะ ที่นำมาใหัชม

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=15888

ออฟไลน์ ตู่ ลำพูน

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 583
    115
  • เพศ: ชาย
Re: โรแมนติกกลางเล โฮมสเตย์เกาะยอ...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 15/มิ.ย./13 13:14น. »

ไปสงขลาเมื่อหลายปีก่อนเพื่อนบอกให้ไปเที่ยวเกาะยอแต่พลาดโอกาส...เห็นภาพแล้วประทับใจมากครับ...ไว้มีโอกาสไปคราวหน้าคงได้ไปเที่ยว...ขอบคุณภาพสวยๆนะครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=15888

ออฟไลน์ หนุ่มบางแค

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 418
    191
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์
Re: โรแมนติกกลางเล โฮมสเตย์เกาะยอ...
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 15/มิ.ย./13 14:44น. »

ตอนเด็ก ๆ ผมก็เคยเอาทางมะพร้าวมาสานเป็นปลาตะเีพียน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=15888