
ท่าน ๆ คงคุ้นเคยกับเมล็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นอย่างดี และอาจจะเป็นของขบเคี้ยวที่หลายคนชื่นชอบ แต่จะมีกี่คนที่เคยเห็นผลของมะม่วงหิมพานต์และได้รู้ว่าเมล็ดของมะม่วงหิมพานต์นั้นจะอยู่นอกผลไม่ได้อยู่ในผลเหมือนอย่างผลไม้ทั่วไป เมล็ดมะม่วงหิมพานต์แท้จริงก็น่าจะจัดอยู่ในตระกูลถั่ว(nut) เพราะมีสารอาหารที่เหมือนกับพืชตระกูลถั่วอื่น ๆ และมีสารอาหารมากมายหลายอย่าง
นอกจากเราจะนำส่วนที่เป็นเมล็ดมาทานแล้วส่วนต่างๆ ของมะม่วงหิมพานต์ จะมีเนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยว รับประทานได้ทั้งดิบและสุก ทางภาคใต้ของไทย นิยมนำผลห่าม มาแกงส้ม จะออกรสเปรี้ยว ส่วนผลดิบ รับประทานกับเกลือเป็นของทานเล่น บางครั้งจะออกรสฝาดเล็กน้อย ส่วนผลสุกสามารถนำไปหมักเป็นไวน์ น้ำส้มสายชู หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ส่วนต่างๆ ของต้นมะม่วงหิมพานต์
ส่วนที่ใช้ : ยางจากผลสด ที่ยังไม่สุก 1 ผล ที่เด็ดออกมาใหม่ๆ, ยางจากต้น เมล็ด
สรรพคุณ :
ยางจากผลสด ยางจากต้น - เป็นยารักษาหูด
เมล็ด - ผสมยารับประทาน แก้กลากเกลื้อน และโรคผิวหนัง แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน
ยางจากต้น
- ทำลายตาปลา และกัดทำลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต
- แก้เลือดออกตามไรฟัน
วิธีและปริมาณที่ใช้
ยางจากผลสด - ที่ยังไม่สุก 1 ผล ที่เด็ดออกมาใหม่ๆ ใช้ยางจากผลทางตรงบริเวณที่เป็นหูด ทาบ่อยๆจนกว่าจะหาย
ยางจากต้นสด - ทาตรงตาปลา หรือเนื้อที่ด้านเป็นบุ๋มโต ทาบ่อยๆ จนกว่าจะหาย
คำเตือน : ยางของเปลือกเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ถ้ากัดเข้าไปจะทำให้กัดปากและถ้าสัมผัสโดนยางโดยตรงอาจเป็นแผลได้
ที่มา : rspg.or.th+samunpai.com — กับ Somboon Betta, Trisit Charoenchiengchai, Nutthaphat Chotithanyabhinand, zubaidah md salleh และ Icey Natt