ผู้เขียน หัวข้อ: โรคลมชัก  (อ่าน 3983 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เซิฟ ชัยนาท

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 56
    19
โรคลมชัก
« เมื่อ: 27/มี.ค./13 10:55น. »


โรคลมชัก ก่อนจะสาย
สังเกตอาการ โรคลมชัก ก่อนจะสาย
 



สังเกตอาการลมชัก ก่อนจะสาย (ไทยรัฐ)
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ

          เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากจะมีโรคประจำตัวเป็นของตัวเองหรอก เพราะไม่มีใครที่สามารถกำหนดชีวิตได้ แต่เมื่อคุณต้องเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ นี้แล้วนั้น จะมีวิธีการดูแลตัวเองเช่นไร ให้ปลอดภัยและมีสุขภาพร่างกายที่ดีได้...

          โรคลมชัก พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย และในประเทศไทย ประมาณกันว่ามีผู้ป่วย โรคลมชัก ราว 6-7 แสนคน ทั้งนี้เกิดจากความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าภายในสมอง ซึ่งมีการนำของกระแสไฟฟ้าที่ลัดวงจรก่อให้เกิดอาการชักตามมา และอาจมีสาเหตุได้ตั้งแต่จากโรคทางกรรมพันธุ์ ภาวะติดเชื้อในสมอง สมองขาดออกซิเจน มีไข้สูงแล้วชัก มีอุบัติเหตุทำให้เกิดแผลเป็นในสมอง เซลล์ในสมองอยู่ผิดที่ ไปจนถึงเนื้องอกในสมอง และอีกหลายสาเหตุ

          " โรคลมชัก หากได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ และถูกต้อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสามารถหายขาดได้ครับ" ดร. นพ.โยธิน ชินวลัญช์ แพทย์ศูนย์สมองและระบบประสาทกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าว คุณหมอศึกษาสาขาโรคระบบประสาทวิทยา และ โรคลมชัก ในระดับปริญญาเอก จาก Melbourne University "แต่ถ้าปล่อยให้คนไข้ชักอยู่เรื่อย สภาวะที่กระแสไฟฟ้าในสมองถูกระตุ้นมากเกินไป จะไปกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารทำลายเซลล์สมอง เซลล์สมองจะตาย เน็ตเวิร์คภายในเซลล์สมองจะเสีย คนไข้ที่มีอาการชักนาน ๆ พอเอ็กซเลย์สมอง 2 ปีถัดมา สมองเหี่ยวไปเยอะเลย สมองส่วนความจำก็เหี่ยวด้วย แล้วยังกระทบต่อสมองส่วนอื่น ภาวะเหล่านี้ถ้าเรารักษาช้าจะไม่เหมือนเดิมเลย"

          แต่ โรคลมชัก มีความหลากหลายทางอาการมาก อยู่ที่ว่าภาวะผิดปกติของกระแสไฟฟ้าในสมองไปผิดปกติในสมองส่วนใด และรุนแรงแค่ไหน บางอาการจึงสังเกตยากมาก ทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น โรคลมชัก ก็ไม่ได้รับการรักษา เช่น ภาวะเหม่อลอย ภาวะวูบไป ภาวะเบลอจำอะไรไม่ได้ชั่วขณะวูบ ฯลฯ ยิ่งถ้าอาการเหล่านี้ เป็นเพียงไม่กี่วินาทีแล้วหาย ก็ยิ่งไม่ทันสังเกต ซึ่งคุณหมอแนะว่า ถ้ามีอาการเหล่านี้ซ้ำ ๆ ยิ่งมีอาการวูบตามมา แม้จะไม่มีอาการเกร็ง ชัก กระตุก ก็ควรมาพบแพทย์ การซักอาการ ประวัติ รวมทั้งการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) จะช่วยบอกได้ว่าเป็นภาวะของโรคลมชักหรือไม่"

          แค่อาการวูบที่เหมือนนิ่งไป หรือเหมือนความจำหายไปชั่วขณะ ก็มีหลายระดับ ส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวเลย คือวูบ 100 เปอร์เซ็นต์ จำอะไรไม่ได้ บางคนวูบในลักษณะจำเหตุการณ์ได้ แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บางคนรู้สึกเหมือนการสั่งงานไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น ปกติ หรือการสั่งงานช้าลง ผู้ป่วย โรคลมชัก ที่มีอาการวูบร่วมด้วย จะค่อนข้างชัดเจน แต่บางคนที่ยังไม่มีอาการนี้ เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็น โรคลมชัก สุดท้ายพอทิ้งไว้และเกิดชักกระตุก คราวนี้ก็อันตายเกินไป"

          ผู้ป่วยลมชักหลายคนมาด้วยอาการแปลก ๆ เช่นเห็นภาพหมุน เห็นภาพเคลื่อนไหวเร็วกว่าปกติ เห็นแสงจ้าสีสันหลากหลาย (ต่างจากผู้ป่วยโรคไมเกรนซึ่งจะเห็นแสงจ้าขาวดำ) เห็นภาพในอดีตวิ่งผ่านสมองเหมือนฉากในภาพยนตร์ หรือบางคนเห็นภาพหลอน หูแว่ว กลัว และหลายคนมาด้วยอาการทางจิตประสาท ต่อเมื่อได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าในสมอง จึงทราบว่ามีอาการของโรคลมชัก

          "ถ้าความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าในสมองไปปรากฎที่สมองส่วนควบคุมจิตใจ ก็อาจมีอาการทางจิตใจที่ผิดปกติไป เช่น Deja Vu ความรู้สึกที่เหมือนคุ้นเคยทั้งที่ไม่เคยรู้จัก หรือเข้าไปที่ไหน ก็เหมือนเคยเจอใครมาก่อน ทั้งที่ไม่ใช่ หรือในทางตรงกันข้าม สิ่งที่เคยคุ้นหรืออยู่บ้านตัวเอง ก็เกิดรู้สึกแปลกไป เจอแฟนตัวเอง ก็รู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า"

          "อีกเคส เด็กคนหนึ่งมาหาเรา มีอาการนิ่ง และเหม่อลอย แต่ก่อนที่เขาจะชักเขาจะเห็นภาพผู้หญิงผมยาวยืนหันหลังให้ บางคนฟังแล้วผวา เป็นภาพผู้หญิงที่ไม่มีตัวตน เหล่านี้อาจเป็นอาการเตือนของ โรคลมชัก ได้ครับ"

          การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) จะช่วยเช็คคลื่นไฟฟ้าสมองที่ผิดปกติในผู้ป่วย โรคลมชัก ได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลกรุงเทพ มีให้บริการทั้งชนิด Routine EEG ใช้เวลาตรวจ 30 นาที (โอกาสค้นพบคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติในผู้ที่เป็นโรคลมชักราว 60 เปอร์เซ็นต์) และชนิด VDO-EEG monitoring เป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง 24 ชม พร้อมวีดีโอบันทึกกิจกรรมของผู้ป่วย เปรียบเทียบกับคลื่นไฟฟ้าในสมองในแต่ละขณะ ซึ่งแพทย์อาจสั่งตรวจเพียง 24 ชม. หรือตรวจติดต่อกันหลายวันแล้วแต่ความเหมาะสม

          เนื่องจากคนไข้ โรคลมชัก กลุ่มหนึ่งมีภาวะดื้อยา และอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดสมอง ทางโรงพยาบาลกรุงเทพ ยังมีบริการตรวจทางกัมมันตรังสี (Ictal SPECT) และการตรวจ PET Scan รวมทั้งการตรวจตำแหน่งความจำในสมอง ซึ่งการตรวจเหล่านี้จำเป็นต้องตรวจควบคู่กัน เพื่อการกำหนดตำแหน่งสมองบริเวณ ที่มีคลื่นไฟฟ้าผิดปกติให้ชัดเจนก่อนทำการผ่าตัดสมอง และคุณหมอโยธินก็เป็นหนึ่งในแพทย์ผู้บุกเบิกการใช้ Ictal SPECT และ PET Scan ในการกำหนดตำแหน่งคลื่นไฟฟ้าในสมองผิดปกติเพื่อการผ่าตัดสมอง ผลงานวิจัยของคุณหมอในเรื่องนี้ได้รับรางวัลจากสมาคมโรคลมชักแห่งออสเตรเลีย

          "เมืองไทยมีการผ่าตัดสมอง เพื่อรักษาโรคลมชักปีหนึ่งประมาณร้อยกว่าราย ซึ่งถือว่าไม่เยอะ ถ้าเทียบกับผู้ป่วยที่มีอาการดื้อยาในขณะนี้หลายหมื่นคน โรงพยาบาลที่พร้อมทุกด้านในการรักษา โรคลมชัก  ด้วยการผ่าตัดสมองยังมีไม่กี่แห่งครับ" คุณหมอทิ้งท้ายด้วยความเสียดาย ซึ่งต้องประสานงานผ่านทางหน่วยงานราชการให้เร่งดำเนินการ เพื่อรักษาไม่ให้เกิดความผิดปกติกับทางร่างกาย และเกิดการผิดปกติกับอาการ โรคลมชัก อีกด้วย เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้วางแผนเอาไว้

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14264

ออฟไลน์ ตู่ ลำพูน

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 583
    114
  • เพศ: ชาย
Re: โรคลมชัก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 28/มิ.ย./13 18:37น. »

อ่านแล้วน่ากลัวจังขอบคุณครับคุณ เซิฟ ชัยนาท  ที่นำสาระดีมีประโยชน์มาให้อ่าน
 

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14264

ออฟไลน์ หนูอ่ำ

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 53
    4
  • เพศ: ชาย
Re: โรคลมชัก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 16/ส.ค./13 23:49น. »

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลดี ๆ มีประโยฃน ์แบบนี้

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14264

Re: โรคลมชัก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 26/มี.ค./14 03:40น. »

ขอบคุณค่ะมีประโยชน์จัง

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14264

ออฟไลน์ ปณต

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 721
    48
Re: โรคลมชัก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 30/พ.ค./14 19:12น. »

โรคนี้น่ากลัวคับ เคยเห็นในหนังรู้สึกน่าสงสารมากเลยแม้ว่าจะเป็นแค่หนังก็ตาม คิดว่าคนไหนเป็นนะโชคร้ายฟุดๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14264