ผู้เขียน หัวข้อ: เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ตัดแปะโดย เจ เหน่งบา ๕.ประตูผีของกรุงเทพฯ (มีข้อมูลเพิ่มเติม)  (อ่าน 2179 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ภูฤดี

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 387
    379
  • เพศ: ชาย
  • ภูผาจิต


ข้อมูลจาก หนังสือชุดภูตผีปิศาจไทย ของครูเหม เวชกร ลำดับที่ ๔ เล่ม"ผู้มาจากเมืองมืด" ตอน ประตูผี
(ต้นฉบับค้นพบใหม่ตอนปี ๒๕๔๖ ในวาระครบรอบร้อยปีชาตะกาลครูเหม เวชกรพอดี)

'...ตำบลประตูผี เดี๋ยวนี้เปลี่ยนชื่อให้เป็นมงคลว่า ตำบลสำราญราษฎร์ แต่ความหมายก็อยู่ดังเดิม
คือประตูเมืองเก่าที่ทะลุกำแพงเมืองตรงนี้ชื่อประตูผี  เป็นที่นำศพคนตายในเมือง
ออกไปทำศพกันนอกเมือง เพราะสมัยโนัน สร้างเมืองใหม่ๆ ต้องการความเป็นมงคล
ไม่มีการนำศพทำเมรุกันในกำแพงเมือง เว้นแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินและพระศพเจ้านายใหญ่ๆโตๆเท่านั้น
     ประตูผีนี้จึงมีชื่อตายตัวเป็นกฎว่า ใครนำศพคนตายออกประตูเมืองด้านอื่นๆมิได้
ต้องออกแต่ประตูนี้โดยจำกัด แม้จะเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า สำราญราษฎร์ ก็ยังมีความหมาย
เดิมนั่นเอง หมายถึงว่า ราษฎรมีความสุขแล้ว และคนที่สุขที่สุดก็คือคนตายแล้ว
เป็นผู้หมดห่วง หมดกังวล สำราญจริงๆจึงมาออกประตูนี้ และวัดที่ใกล้ที่สุดในสมัยโน้น
ก็คือวัดสระเกศ พอออกจากประตูผีข้ามสะพานลงมา ก็เข้าวัดสระเกศสู่ลานป่าช้า
ที่ใหญ่โตมโหฬารจริงๆ นับแต่ลงสะพานสำราญราษฎร์ก็เป็นพื้นที่ป่าช้าแท้ๆ
จรดสะพานแม้นศรี อีกด้านหนึ่งไปจรดบ้านบาตร เป็นป่าช้าที่กว้างใหญ่
ไม่เหมือนวัดต่างๆเดี๋ยวนี้ ป่าช้าอยู่ติดกับบ้านคน ป้าช้ามีวัดละนิดเดียว คำว่า
ป่าช้าของสมัยก่อนนั้นเป็นสถานที่สงัดเงียบวังเวงไม่ใกล้ใคร ห่างผู้ห่างคนจริงๆ
เป็นแดนของคนตายแล้ว ไม่ใช่แดนคนมีชีวิตจะไปปะปน...'  

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=4935
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/พ.ค./13 07:54น. โดย ภูฤดี »
....รักสูญสิ้น ภิณฑ์พรากจากเหน่งบา....

ออฟไลน์ ภูฤดี

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 387
    379
  • เพศ: ชาย
  • ภูผาจิต

ได้ข้อมูลเพิ่มเติมดีๆจากเฮียมั่นคง เว็บMunkonggadget.com ครับ


(จากนี้ เป็นข้อความของเฮียมั่นคงนะครับ)
ผมเล่ามั่ง

จากสันนิษฐานของผมเอง และจากที่เคยอ่านๆๆจากหนังสือเก่าๆ จากนักเขียนรุ่นเก่าและนักบันทึกสมัยก่อน อย่างเช่น ส.พลายน้อย เทพชู ทับทอง หนังสือต่างๆ จะมีภาพมากมาย แต่ไม่มีซักเล่มที่ระบุว่าตรงไหนคือประตูผีกันแน่

แต่ความเห็นผม ให้ลองสังเกตุแนวเส้นสีเขียวที่ผมลากให้ดู อันนี้จะเป็นแนวกำแพงป้อมพระกาฬ จากรูปเก่าๆ จะเห็นว่าแนวสีเขียวนี้จะลากยาวไปจนถึงหน้าวังบูรพา ซึ่งปัจจุบันก็คือห้างเมอรี่คิงส์ที่เพิ่งรื้อทำห้างใหม่ไปแล้ว

ส่วนแนวสีฟ้านั้น เป็นแนวกำแพงเหมือนกัน จนมาเหลือแนวกำแพงป้อมตรงบริเวณวัดราชนัดดา และวัดเทพธิดาราม ตรงนี้จะคงเห็นแนวกำแพงอยู่เหมือนกัน

ซึ่งแนวกำแพงจะลากยาวขนานกันไป ระหว่างสีฟ้ากับสีเขียว คนที่อยู่ในแนวหลังเส้นสีฟ้า คือคนที่ถือว่าอยู่ในบริเวณเขตเมือง หรือเขตพระบรมมหาราชวัง จะกินอาณาเขตจากแนวสีฟ้าไปตรงคลองหลอด เสาชิงช้า กระทรวงกลาโหม

ส่วนพวกที่อยู่นอกแนวเขตเมือง คือพวกที่อยู่ข้ามมาทางหลังเส้นสีเขียวที่ผมลากให้ดู ซึ่งหลังแนวนี้ลงไปจะเป็นคลองโอ่งอ่าง ตรงไปคือแม้นศรี และมีวัดสระเกศหรือภูเขาทอง ซึ่งสมัยก่อนกินอาณาเขตกว้างกว่าปัจจุบันมาก และแน่นอนถ้าสังเกตุให้ดีๆ ตรงบริเวณที่ผมวงสีแดงไว้ให้ คือสี่แยกสำราญราษฎร์นั่นเอง

แล้วคนตายจะไปลอดทางไหน และทางไหนน่าจะเป็นประตู ???

ผมเดาว่า กำแพงสีฟัาถูกรือออก และถูกตัดตรงเป็นถนนบำรุงเมือง และจากเสาชิงช้ามุ่งหน้าตรงมาก็จะเป็นสี่แยกประตูผี ทางที่น่าจะเป็นทางผ่านไปทางเดียวก็คือสี่แยกสำราญราษฎร์นั่นเอง และจากสี่แยกประตูผี มุ่งหน้าตรงขึ้นไป จะเป็นสะพานเล็กๆข้ามคลองโอ่งอ่าง

ซึ่งถ้าหามศพผ่านออกไปก็น่าจะผ่านตรงสะพานนี้ลงไป เพื่อจะเลี้ยวซ้ายตามเส้นสีแดงเข้าไปที่บริเวณวัดสระเกศ ซึ่งวัดสระเกศนั้่นในสมัยโบราณนั้นใช้เป็นสถานที่อเนกประสงค์ คือเมืองไทยเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เกิดอหิวาตกโรคครั้งใหญ่ คนตายมากมาย

ตายแล้วก็หามเดินผ่านออกจากกำแพงเมืองเพื่อลอดเข้าสี่แยกสำราญราษฎร์(จุดแดง) ซึ่งสมัยก่อนตรงนี้น่าจะเป็นประตูใหญ่ที่เปิดลอดผ่านไปเพื่อไปเข้าวัดสระเกศนั่นเอง อีกประการหนึ่ง เวลามีนักโทษประหาร เค้าก็จะนำตัวจากเรือนจำกรุงเทพ (ปัจจุบันนี้เป็นสวนรมณียนาถ)

นำไปมัดกับหลักและตัดหัวที่บริเวณวัดสระเกศ ตัดเสร็จแล้วก็ไม่ต้องทำพิธีอะไรมากมาย คือปล่อยให้แร้งกินซากศพจนหมด จากรูปหลายรูปที่ผมเคยเห็น อีแร้งจะมารอกินศพตั้งแต่คนยังไม่เสียชีวิตกันเลยทีเดียว.....



รูปอีแร้งกำลังรอกินศพของคนตายจากอหิวาตกโรคครับ





เติมอีกนิดครับ ใครอยากรู้ว่ากำแพงชั้นในอยู่ตรงไหน ให้สังเกตุจากแนวป้อมต่างๆครับ จะเป็นจุดแดงล้อมเป็นวงกลม ซึ่งปัจจุบันจะเหลือแต่ป้อมพระสุเมรุและป้อมมหากาฬให้เราเห็นเท่านั้นครับ และมองอีกที ตรงบริเวณป้อมหมู่ทะลวง ตรงนั้นจะใกล้กับจุดสี่แยกสำราญราษฎร์มากที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นประตูที่ใช้หามศพลอดออกไป เพื่อไปทางวัดสระเกศ

ซึ่งน่าจะเป็นสถานที่เรียกว่า "ประตูผี" นั่นเอง




แนวกำแพงถนนมหาชัยสมัยนู้น


ท่านที่มีโอกาสไปเที่ยวชมแถวสำราญราษฏร์ อย่าลืมแวะชิม ผัดไทประตูผีอันลือชื่อ นะครับ มีขนมเบื้องเจ้าอร่อยอยู่ข้างๆกันด้วย    และได้ยินมาว่า เย็นตาโฟตรงหัวมุมสี่แยก ก็รสชาติจัดจ้านมิใช่น้อย น่าสนใจมากครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=4935
....รักสูญสิ้น ภิณฑ์พรากจากเหน่งบา....

ออฟไลน์ ทวีป โคราช

  • ผู้ช่วยแอตมิน
  • *******
  • ออฟไลน์
  • 1486
    1533
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

ที่โคราชก็มีประตูเมืองสี่ด้านครับ ด้านทิศใต้คือประตูไชยณรงค์ (ประตูผี) ซึ่งมีไว้สำหรับเอาศพออกนอกเมืองเช่นกัน
คำว่า ป่าช้า คนรุ่นใหม่คงนึกภาพไม่ออก เพราะมันไม่เหมือนสมัยเก่า

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=4935