ผู้เขียน หัวข้อ: เชื้อมาลาเรียที่ดื้อยาล่าสุดในประเทศไทย คือฝันร้ายของชาวโลก‏  (อ่าน 2603 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546


หมายเหตุ นอกจากตามลิงค์ที่วางไว้นี้แล้วนะคะ สามารถปรึกษาเพิ่มเติมหรือยืนยันข้อมูลได้ที่คุณหมอภูสุดเท่ห์ ณ เชียงของ นะเจ้าค๊ะ

Drug-resistant malaria in Thailand threatens deadly global 'nightmare'
 

http://worldnews.nbcnews.com/_news/2013/01/02/15903518-drug-resistant-malaria-in-thailand-threatens-deadly-global-nightmare?lite
 

เชื้อมาลาเรียที่ดื้อยาล่าสุดในประเทศไทย คือฝันร้ายของชาวโลก

อ.แม่สอด, จ.ตาก -  นายแพทย์ ฟรานซัว น็อสเตน ชาวฝรั่งเศส ผู้ค้นคว้าและบริหารหน่วยวิจัยโรคมาลาเรีย ช็อคโคล่ (Shoklo)

ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล แสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่ง ต่อสถานการณ์

โรคมาลาเรียตามบริเวณชายแดนไทยติดต่อกับพม่า  ด้วยเพราะว่าขณะนี้เกิดการดื้อยาตัวเดียวที่ยังใช้ได้ผลอยู่ ในการบำบัดผู้ป่วยที่ติดเชื้อมาลาเรีย

หน่วยวิจัยช็อคโคล่ นี้มีสาขาตั้งอยู่หลายจุด ทั้งสองฝั่งแม่น้ำเมยซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า และยาที่ใช้รักษา 

ชื่อ อาร์เตมิสซินิน (Artemisinin) นายแพทย์น็อสเตนกล่าวว่า ยาตัวนี้เคยใช้บำบัดโรคมาลาเรียให้บังเกิดผลภายใน 24 ชม.

แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ได้แล้ว ต้องใช้เวลาถึงสามหรือสี่วัน กว่าจะเอาเชื้อโรคให้อยู่หมัดได้ในบางคน และเขาทำนายต่อว่า แล้วต่อ ๆ

ไป เราก็คงจะได้เห็น เมื่อยาตัวนี้ใช้ได้ได้ผลเลย เป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกจริง ๆ  เพราะกลัวว่าจะเอาไม่อยู่แล้วเชื้อโรคดื้อยานี้

จะแพร่กระจายกว้างออกไป จะทำให้ผู้คนเสียชีวิตได้เป็นล้าน ๆ คน เพราะนี่เป็นยาชนิดเดียวที่ถือเป็นยาแนวหน้าสุดในการบำบัดโรคนี้ 

แต่เขายังมุ่งมั่นที่จะเอาชนะโรคนี้อย่างราบคาบให้ได้ก่อนที่จะสายเกินการณ์ ซึ่งนับเป็นความท้าทายไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย 

ด็อกเตอร์ น็อสเตน เริ่มทำวิจัยที่นี่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 และเริ่มทำให้จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคมาลาเรียลดลงมาเรื่อย ๆ จนถึงเมื่อไม่นานมานี้

ที่เขาได้ประกาศเตือนไปแล้วเมื่อต้นปีนี้  หลังจากที่มีกรณีย์เชื้อโรคดื้อยาเกิดขึ้นแล้วที่ชายแดนด้านเขมรซึ่งเขาก็ไม่อาจทราบได้ว่า

มันระบาดมาจากชายแดนด้านเขมร หรือว่ามันเกิดขึ้นตามชายแดนพม่าของมันเอง และเขากังวลมากว่ามันจะเลวร้ายลงจนสายเกินแก้   

ทุกวันนี้ทั่วโลกยังมีคนตายด้วยโรคมาลาเรียปีละหกแสนห้าหมื่นห้าพันคน และถ้าหากยาตัวนี้ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป (โรคดื้อยา)

ก็จะไม่มียาตัวอื่นมาใช้แทนที่ เพราะยังหายาแทนไม่ได้ ถึงแม้จะกำลังค้นคว้าอยู่อีกหลายชนิด แต่ก็ไม่แน่ว่าจะได้ใช้ หรือใช้ได้ผล 

"ที่น่าสะพรึงกลัวก็คือว่า อาการดื้อยานี้มันจะระบาดไปเรื่อย ๆ ชีวิตคนเป็นล้าน ๆ จะอยู่ในอันตราย" ซึงเขามั่นใจว่า ทวีปอาฟริกานั้น เกิดแน่ ถ้า ...

เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในทศวรรษ 1990 ซึ่งในยุคนั้นเราใช้ยา คลอโรควิน ซึ่งถูกดื้อยาไปแล้ว คนตายเป็นล้าน ... เขากล่าว 

"เราจะต้องป้องกันไม่ให้เชื้อที่ดื้อยา อาร์เตมิสซินินระบาดไปถึงอาฟริกาให้ได้ และเราก็ต้องในเอเซียในขณะเดียวกัน"

อาการดื้อยารักษา โรคมาลาเรียทุกชนิด ที่ผ่าน ๆ มาก็มันเกิดตามชายแดนที่เขาคลุกคลีมาตลอด 25 ปี เสมอ แ

ละไม่มีใครรู้ว่าเหตเพราะอะไร ก็มีความเชื่อว่า ความยากจน  การสู้รบและการมีผู้อพยพจำนวนมาก เคลื่อนย้ายเข้าออกตลอดเวลา

การใช้ยาปลอม หรือไม่รักษาให้หายขาด อย่างน้อยก็มีส่วนทำให้เกิดสภาพนี้ขึ้น สำหรับตัวยาคลอโรควินนั้น แต่ก่อนเป็นยาที่ได้ผลดีมาก 

แต่มันใช้ได้ผลแค่ 20 ปีเท่านั้นเอง ก็เกิดอาการดื้อยา และระบาดไปทั่วอาฟริกา จากชายแดนประเทศไทย  เขากลัวว่าการดื้อยาอาร์เตมิสซินิน

จะใช้เวลาน้อยกว่าที่เขาคาดคะเนไว้เสียอีก เพราะจากที่เขาเห็นจำนวนผู้ป่วยที่ยาตัวนี้รักษาไม่ได้ผลถึงครึ่งต่อครึ่ง ในปี พ.ศ. 2552

นั้นรักษาหายได้ถึง 90% และในปีต่อมาก็เหลือ 60-70%  ขณะนี้ รักษาได้ผลแค่ 50% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์ คนอื่น ๆ ที่มีความเห้นว่า นี่เป็นการตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะที่สุดแล้วเชื้อโรคก็จะตายอยู่ดี

จากการใช้เวลานานขึ้น และใช้ปริมาณยามากขึ้น แต่ด๊อกเตอร์ น็อสเตน ก็ยังเห็นว่าไม่ควรคลายกังวล โดยไม่มีการเตรียมการรับมือ

 เพราะว่าเรายังไม่มียาตัวใหม่ที่จะมาใช้แทนอาร์เตมิสซินินได้


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12697