วันนี้มีวิธีใหม่ในการลดความอ้วนเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีมาแนะนำกันค่ะ ใช่แล้ววิธีนี้คือ "กล้วยมื้อเช้า" ค่ะ

สืบเนื่องมาจากหนังสือเล่มที่เขียนโดยคุณ ฮามาจิ (จิน วาตานาเบะ) เค้าเป็นกูรู ผู้นำเสนอหลักการกล้วยมื้อเช้าเป็นคนแรก (เริ่มนำเสนอในปี 2006) โดยคนคิดค้นหลักการนี้ก็คือ เภสัชกร นักเวชศาสตร์ป้องกันซึ่งเป็นภรรยาของเค้าเอง ชื่อ คุณ สิมิโกะ วาตานาเบะ
กล้วยมื้อเช้าที่เป็นหลักการที่ฮอตฮิตมากๆที่ญี่ปุ่นเลยหล่ะ แบบที่บนหน้าปกหนังสือนี้บอกว่าขายมาแล้วกว่า 1 ล้านเล่มที่ญี่ปุ่น ปรากฏการณ์กล้วยมื้อเช้าที่ญี่ปุ่น ทำให้ในปี 2008 ราคากล้วยที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 20%, กล้วย ใน supermarket จะหมดก่อนบ่ายสามโมง และ ญี่ปุ่นต้องนำเข้ากล้วยเพิ่มขึ้นถึง 25% เลยทีเดียววว
เห็นแบบนี้แล้วชักอยากรู้แล้วใช่มั้ยหล่ะ ว่าหลักการของกล้วยมื้อเช้าเป็นยังไง
เรามีสรุปมาให้แล้วสั้นๆ แต่แนะนำว่าให้ไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านกัน เพราะในหนังสือเ ค้าจะอธิบายละเอียดเลยว่าทำไมหลักการของกล้วยมื้อเช้าถึง work , มีตัวอย่างของคนที่ปฏิบัติแล้วเห็นผลแตกต่างกันมาเล่า, มีภาพประกอบที่ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และ มีคำตอบของ FAQ ที่คนเค้าถามคุณฮามาจิมาด้วย บางอันตรงกับที่เราอยากถามพอดีเลย
หลักการของกล้วยมื้อเช้า มี 8 ข้อ (สรุปจากหนังสือหน้า 38 - 43)
1. กินกล้วยหอมอย่างเดียวในมื้อเช้า เคี้ยวให้ละเอียดปล่อยให้ลิ้นได้รับรสอร่อยของกล้วย
จะกินกี่ลูกก็ได้ คนที่ไม่ชอบกินกล้วยหอมจริงๆจะเลือกกินผลไม้อื่นก็ได้แต่ให้เป็นชนิดเดียวอย่ากินปนกันห ลายอย่าง ที่คุณฮามาจิเลือกกินกล้วยหอม เพราะ กล้วยหอมทานง่าย และมีประโยชน์มากเลย
ถ้ากินกล้วยแล้วรู้สึกว่ายังหิวอยู่ ให้เว้นระยะซัก 15-30 นาที แล้วค่อยทานอย่างอื่นได้
2. ดื่มเฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้นและดื่มบ่อยๆ
เครื่องดื่มที่ดื่มกับกล้วยหอมในตอนเช้า เค้าให้ดื่มน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้อง ถ้าจะดื่มอย่างอื่นก็ให้เว้นระยะ 15-30 นาทีเหมือนเดิม หลักการของกล้วยมื้อเช้าเค้าให้ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆตามที่ต้องการ เค้าว่าการดื่มน้ำเปล่าจะทำให้ประสาทรับรสชาดดีขึ้น กระเพาะและลำไส้ทำงานน้อยลง พอรับรสชาดได้มากขึ้น ความต้องการอาหารในแต่ละมื้อจะลดลงเอง แต่ นานๆครั้งจะนอกใจไปดื่มอย่างอื่นก็ไ ม่เป็นไร กล้วยมื้อเช้าเน้นสบายๆ ไม่เครียด
3.กินอาหารกลางวันตามปกติ
มื้อกลางวันกินอะไรก็ได้ แต่ขอให้เคี้ยวให้ละเอียด รับรสชาดอาหารให้เต็มที่ เพราะถ้าเราทานอาหารกลางวันน้อยๆเราก็อยากจะทานขนมมากขึ้น เค้าให้ทานให้เต็มที่ไปเลย แต่อยากให้เน้นที่อาหารประเภทข้าว เค้าให้ทานข้าวเยอะๆลดปริมาณกับข้าวลง
4. กินของว่างได้ตอนบ่ายสาม
จริงๆเค้าว่ากินของว่างได้ทุกวันหากต้องการ แต่เพื่อไม่ให้กินมากเกินไปเลยจำกัดให้กิน 1 อย่างต่อวัน เค้าแนะนำให้กิน Chocolate หรือ ขนมญี่ปุ่น (คนแปลบอกว่า มักทำจากแป้ง ถั่ว น้ำตาล) พวกไอศกรีม โดนัท มันฝรั่งทอด เค้าว่านานๆครั้งดีกว่า แต่ถ้าอยากให้ไดเอ็ทเห็นผลเร็ว เค้าให้เลือกกินผลไม้ แต่เลือกกินชนิดเดียวพอนะ อย่าปนๆกัน
5. กินอาหารเย็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ถ้าเราทานอาหารเย็นดึกจนเกินไป ตอนนอนกระเพาะลำไส้ก็ยังไม่ได้พัก ทำให้ร่างกายไม่สามารถขจัดความเหนื่อยล้าที่มีในแต่ละวันได้ อันเป็นสาเหตุของการอ้วน กล้วยมื้อเช้าบอกให้เราทานอาหารเย็นประมาณ 6โมง และดึกสุดไม่เกิน 2 ทุ่ม ถ้ายากก็ลองขยับให้เร็วขึ้นสัก 30 นาทีดูก่อน และให้ฝึกไม่กินของหวานหลังอาหารเย็นด้วย ให้กินของหวานแค่บ่ายสามเท่านั้น
6. นอนก่อนขึ้นวันใหม่
พยายามนอนเร็วให้ เป็นนิสัย ดึกสุดไม่เกินเที่ยงคืน การนอนเร็ว และ ท้องไม่เต็มไปด้วยอาหาร จะทำให้นอนหลับสบาย ร่างกายเราจะฟื้นฟูสภาพกันตอนหลับนี่แหละ
7. ออกกำลังกายเมื่อต้องการออก อย่าหักโหม
การออกกำลังกายเค้าให้ทำอย่างพอเหมาะ ทำให้ร่างกายสดชื่น การออกกำลังกายอย่างหักโหม ร่างกายจะรู้สึกทรมานไม่เป็นผลดีเอา เค้าแนะนำให้แกว่งแขนสองข้างขึ้นลงเนี่ยแหละให้ผลดีกับการไดเอ็ทมากกว่าที่คิด
8.จดบันทึกไดอารี่ให้เป็นนิสัย พร้อมเปิดเผยให้คนอื่นอ่านด้วย
การจดบันทึกไดอารี่ไว้ เช่น จดลงบล็อคมีข้อดีคือ จะมีคนมาคอยเชียร์ มาให้คำแนะนำ เป็นบ่อเกิดของกำลังใจได้
อันนี้เป็นตัวอย่าง ไดอารี่ จากหนังสือหน้า 103
มื้อเช้า 7:10 กล้วย 2 ลูก, น้ำเปล่า
มื้อกลางวัน 12:00 ข้าวกล่องเอามาเอง (เค้าจดละเอียดเลยว่าอะไรบ้าง), ไก่ทอด 2 ชิ้น, น้ำเปล่า
อาหารว่าง 15:00 ช็อกโกแลตบาร์ครึ่งแผ่น, น้ำเปล่า
มื้อเย็น 19:00 ข้าวแกงกะหรี่ 1 จาน, สลัดมันฝรั่ง, ซุป, น้ำเปล่า
มื้อดึก 21:00 ส้ม 2 ลูก, น่ำเปล่า
เวลานอน 23:30
ออกกำลังกาย หายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนอาหาร
การถ่าย ดีมาก
หมายเหตุ พอดีได้รับเมล์ฟอร์เวิรด์จากเพื่อนมาน่ะค่ะ
