
เห็นในกระทู้นี้ น้องกร ขันทอง บอกว่าท่านที่อยากแต่งเสียง
ก็ลองเอาไฟล์นี้ไปแต่งดู เพราะน้องกร ริปมาแบบไม่แต่ง
ผมก็เลยลองเอาไฟล์ของ น้องกร ขันทอง ไปแต่งเสียงดูครับ
แต่ไม่มีอุปกรณ์ไดๆช่วยทั้งสิ้น สาเหตุเพราะผมอยู่ต่างจังหวัด
ผมเอาโน๊ตบุ๊คของหลานที่ไม่ได้ลงโปรแกรมอะไรไว้เลยทำ
จากนั้นผมก็เข้าร้านเน็ตหาโหลดโปรแกรม Adobe Audition 1.5
มาติดตั้ง แต่งเสียงแบบโปรแกรมเพียวๆ ไม่มีปลั๊กอิน ซาวด์ออนบอร์ดที่มากับโน๊ตบุ๊ค
ก็เลยทำได้แค่ 44100khz ก็อยากจะบอกเหมือนกันว่า
การริปเพลงให้เป็น 48000khz นั้น ซาวด์การ์ดคุณต้องรองรับระบบได้นะครับ
ถ้าเป็นซาวด์การ์ด์ออนบอร์ดธรรมดา อย่าไปทำเลย มันไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นหรอก
จากการฟังเสียงต้นฉบับที่มาจาก น้องกร ขันทอง ก็พอจะวิเคราะห์แบบเดาๆได้ดังนี้
01.เสียงร้องที่แห้งขาดความกังวาล เกิดจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง(ไม่ใช่รุ่นเสียงดี)
และเข็มที่ใช้เล่นไม่เวิร์คพอ สัญญาณเสียงที่ออกมาเลยได้ไม่เต็มที่
02.อุปกรณ์ที่ใช้เปิดริป ผมเดาว่าต่อจากเครื่องเล่นแล้วเข้ามิกซ์ จากนั้นต่อตรงเข้าคอม
หากไม่มีปรีPhonoช่วย เสียงมันก็จะออกมาในลักษณะนี้แหล่ะครับ
ทีนี้มาทำความเข้าใจว่าทำไมต้องมีปรี Phono ก็เจ้าตัวนี้แหล่ะครับ
มันเป็นตัวช่วยขยายสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ให้ออกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย
โดยธรรมชาติแล้ว สัญญาณเสียงเพียวๆ ที่ได้จากเครื่องเล่นแผ่นเสียง มันเบามาก
ถ้าเราใช้วิธีต่อเครื่องเล่นเข้ากับมิกซ์ เพื่อให้มิกซ์ขยายสัญาญาณช่วยแทนปรี Phono
ถามว่าทำได้ไหม ก็ได้ครับ แต่เสียงมันไม่สมบูรณ์ คือเสียงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงเพียวๆ
มันดังแห้งๆ เหมือนเสียงเป็ด แหมบๆๆๆ อยู่แล้ว เมื่อใช้มิกซ์ขยายขึ้นมาอีก
มันก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่หากมันจะขยายเสียงเป็ดแหบๆ ให้ดังเพิ่มขึ้นมานั้นเอง
ทีนี้ก็เป็นเรื่องยากในการแต่งเสียง มันดึงยังไงก็ดึงไม่ขึ้นครับ เสียงแหลม/กลาง/ต่ำ/มันพร่ามัว
แต่งยากมากๆ นี่คือเหตุผลที่ผมพัฒนาอุปกรณ์ทุกชิ้น
ด้วยเงินที่มีอันน้อยนิด ค่อยๆขยับขยายซื้อไปทีละชิ้น อันไหนซื้อมาแล้วไม่ถูกใจก็ขายต่อไป
แต่ที่ขายไปนั้น ไม่ใช่เพราะเสียงไม่ดีนะครับ แค่กิเลสผมมันต้องการหา ที่สุดของที่สุดแค่นั้นเอง
แต่การหาที่สุดของที่สุดนั้น มันก็ต้องเพิ่มเงิน ของดีไม่มีคำว่าถูกแน่นอนในโลกนี้
สมมุติผมขายชิ้นนี้ไป 8 พัน จากที่ซื้อมาราคาเป็นหมื่น ผมไปเล่นชิ้นใหม่ที่เหนือกว่า
ผมก็ต้องซื้อแพงขึ้นมาอีกเยอะ อิอิ...ผมคนบ้าครับ ไม่หยุดนิ่ง
ที่ผ่านมาเครื่องเล่น 5ตัว5ยี่ห้อแล้ว เพลงลูกทุ่งผมว่าใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงตระกูลญี่ปุ่นดีที่สุด
ยี่ห้อดังๆบางยี่ห้อ ทีผลิตในอเมริกา โซลฝรั่ง แนวเสียงมันเหมาะกับเพลงป๊อบเพลงแจ๊ส
เพราะเขาออกแบบมาแบบนั้น ไอ้คนออกแบบมันก็ไม่เคยฟังลูกทุ่ง ฟังหมอลำ ฮิฮิ
ที่ผ่านมาผมเล่น ทั้งอินทิเกรตทั้งแอมป์ ทั้งมิกซ์ ในการริปผมลองมาหลายอย่างแล้ว
ต่อโน้นต่อนี่เข้าโน้นเข้านี่ ใช้ EQ แบบแยกต่อพ่วงเข้ามาก็เคยทำ แต่ไม่เวิร์คครับ เสียงมันขุ่นมัว
ยิ่งพ่วงหลายอย่างสัญญาณมันยิ่งขุ่น ถึงได้มาจบที่ระบบนี้
คือใช้ปรีphono เป็นพระเอก แล้วต่อเข้ากับปรีโทนธรรมดาเพื่อคัดเสียง
บางท่านโทรมาหาผมว่า ปรี Phono ที่มีมาให้ในแอมป์ หรืออินทิเกรตรุ่นเก่าๆใช้ได้ไหม
ก็ใช้ได้ในระดับหนึ่งครับ แต่จะให้ดีเหมือนซื้อแยก คงเป็นไปไม่ได้ เพราะมันเป็นของแถมมากับเครื่อง
ลองหลับตานึกถึงกล้องถ่ายรูปที่แถมมาในโทรศัพท์มือถือเถอะ ซื้อมือถือมาแพงแค่ไหนก็ตาม กล้องที่แถมมากับมือถือ
ยังถ่ายภาพออกมาสวยชัดเท่ากับ กล้องคอมแพค ราคาพันกว่าบาทไม่ได้เลย อันนี้เรื่องจริงนะ
ทีนี้อีกประเด็นครับ น้องกร ขันทอง เคยมาที่ห้องผมและเคยถามว่า ทำไมต้องเป็นเครื่องหลอด
และทำไมต้องใช้ปรี Phono แบบหลอดด้วย
เหตุผลคือ กิเลสหูมันต้องการให้เสียง โดยรวมออกมาฉ่ำนั้นเอง
ปรี Phonoหลอด ช่วยได้เยอะในเรื่องนี้ ยิ่งเป็นเพลงลูกทุ่งเก่าๆล่ะก็เสร็จมันครับ
อย่าลืมว่าเมื่อก่อน อุปกรณ์บันทึกเสียง ในห้องอัดล้วนเป็นเครื่องหลอดนะ
จุดนี้เองข้อดีของ ปรี Phonoหลอด คือให้เสียงที่ใสสะอาด เสียงกลางฉ่ำหู เสียงแหลมก็สุดปลาย ใสกริ๊กๆ
อีกประเด็น ผมอยากให้นักริปทั้งหลาย ลองริปแบบไม่มีแอมป์ หรืออินทิเกรตดูบ้างนะครับ
ถ้าเป็นม้วนเทป ต่อเทปเข้าปรีเลยจากนั้นเข้าคอม (ที่ปรีห้ามปรับไดๆทั้งสิ้น แหลม-ทุ่มตั้งวอลลุ่มเป็นแฟลซให้หมด)
จะปรับก็แต่วอลลุ่มเสียงดังเสียงค่อย เพื่อเอาสัญาญาณเสียงเข้าคอมแค่นั้นเองครับ
แล้วคุณจะได้เสียงที่มีมิติ เวทีเสียงชัดเจน น้ำหนักเครื่องดนตรีก็สมจริง น้ำหนักเครื่องดนตรีคืออะไร
ก็เสียงฉิ่งฉาบ กลอง กีตาร์ เครื่องเป่า รวมถึงเสียงร้อง ที่ดังออกมานั้นเองครับ มันจะสร้างมิติให้เราแบบอัตโนมัติ
เสียงฉิ่งควรดังแค่ไหน กลองดังประมาณไหน กีตาร์ดังแรงไหม ไม่ใช้่ริปออกมาแล้วเสียงดีก็จริง
แต่เสียงฉิ่งฉาบดังลั่นกลบเสียงร้อง เสียงร้องก็แหบแบบบี้ แบบนี้ไม่ดีแน่นอนครับ ฟังแล้วไม่เสนาะหูเลย
ความคิดของผมคือ ถ้าริปเพลงแล้วใช้แอมป์ หรือใช้อินทิเกรตต่อพ้วง จะทำให้เสียงเบสมันใหญ่มาก
กลบเสียงต่างๆซะมิดเลย ทำให้มิติเสียงหายไปหมด ไม่เชื่อก็ลองดูนะครับ
ปรีถูกๆของไทยเยอะแยะไป พันกว่าบาทก็มี ถ้าลองแล้วคุณจะติดใจ
เพราะเบสมันไม่ท่วม เวลาเปิดสามารถหมุนวอลลุ่มเสียงเบสเพิ่มได้อีก
แต่ถ้าท่านริปผ่านแอมป์ แล้วเพิ่มเบสตอนริปมาแล้ว ตอนมาเปิดฟังกับตู้ลำโพงใหญ่ๆ
โอ้โห....เสียงเบสมันทะลักออกมา ตับไตแบบแตกแน่ะครับ
ต้องลดเสียงเบสลงอีกเยอะ บางทีลดจนสุดแล้ว เสียงเบสยังดังลั่นอยู่เลย
ผมใช้วิธีเช็คเสียงจากไฟล์ที่ตัวเองริป โดยการนำไปเปิดเครื่องคนอื่นฟัง
ฟังหลายๆที่ ผมโชคดีอย่างหนึ่งคือ มีเพื่อนๆบ้าเครื่องเสียงหลายคน บางคนเล่นของแพงๆ
ก็ลองเอาไปเปิดฟังดู บางทีมีงานบวช เครื่องเสียงกลางแจ้งใหญ่ๆ ผมก็ไล้ท์ใส่แผ่นไปลองเปิดฟังนะ
บางครั้งมีงานพิธีกรภาคสนาม ผมก็เอาไปเปิดฟัง ก็ลองนึกดูเครื่องเสียงวงดนตรีใหญ่ๆที่ผมเช็ค
ที่เช็คเพราะบ้า อยากรู้ว่าตัวเองทำเสียงเป็นไงบ้างนั้นเอง
จุดนี้แหล่ะเป็นที่มาของลำโพงมอนิเตอร์ สำหรับฟังเสียงตอนริปก็สำคัญมาก
เสียงจะออกมาเป็นอย่างไร ตอนเราริปแล้วฟังมันสำคัญมาก ลำโพงไม่ดีเสียงไม่เป็นกลางพอ มันหลอกหูเรา
ฟังที่ลำโพงเราเอง เสียงมันดีมากๆ พอไปฟังลำโพงคนอื่น ปรากฏว่ามีจุดบอดให้คิดแก้ไข
ลืมครับ ห้องอัดที่เขาทำเพลง เขาไม่ใช้แอมป์ขยายเลยนะ
อุปกรณ์ทุกชิ้นล้วนเป็นปรี และสมัยนี้เขาก็เริ่มหันกลับมาใช้ปรีหลอดกันอีกแล้ว
ค่ายดังๆนี่แหล่ะครับ เสียงร้องเสียงแอฟเฟค ล้วนใช้ปรีหลอด
เท่าที่ผมถามผู้รู้ มือมิกซ์ระดับต้นๆของประเทศไทยเขาบอกว่า
เพลงที่ทำ พอเขาเอาไปเปิดผ่านแอมป์ (เครื่องขยาย มันก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น)
ถ้าตอนทำเราไปขยายให้เขาแล้ว เขาไปเปิดขยายเพิ่ม เสียงมันก็ยิ่งใหญ่โตมหึมาทวีคูณ
ลองดูนะครับ อันนี้แค่สูตรผมความคิดผมเท่านั้นเอง จากประสบการณ์ที่ลองผิดลองถูกมามาก
นำมาถ่ายทอดให้ท่านที่สนใจ รู้เคล็ดลับ อ่านแล้วดูเหมือนโม้นะครับ
แต่คนที่โม้ แล้วทำได้ ดีกว่าไอ้พวกขี้โม้แต่ทำไม่ได้นะผมว่า
การันตีจากผลงานของผม ที่ค่ายเพลงระดับประเทศยอมรับก็พอ
เพราะไฟล์ที่ผมริปจากเครื่องกระป๋อง ค่ายเพลงได้นำออกไปทำเป็น CD วางขายทั่วประเทศ
01.หากฉันเป็นมโนห์รา-ขวัญจิต ศรีประจันต์(ทอง ธาณทิพย์-แต่ง)Mix
