ผู้เขียน หัวข้อ: โดนหลอกทั้งประเทศ! “ปลาดอร์ลี่” ที่แท้คือปลาสวาย  (อ่าน 13940 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1107



โดนหลอกทั้งประเทศ! “ปลาดอร์ลี่” ที่แท้คือปลาสวาย



กลายเป็นกระแสที่น่าตกใจกับคนชอบรับประทานปลาหลายๆคน เมื่อความจริงปรากฎว่า ปลาดอร์ลี่
เนื้อขาวน่ารับประทานที่มีชื่อหรูหราจนหลายคนชื่นชอบนั้น แท้จริงแล้วคือปลาสวายขาว ไม่ใช่ปลาดอร์ลี่
อย่างที่ถูกตั้งชื่อ และทุกคนเข้าใจตามนั้น
       
       จากการเปิดโปงโดย สรรค์สนธิ บุณโยทยาน ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร และข้าราชการ
บำนาญ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เขียนบทความถึงความเป็นมาจากปลาสวายเนื้อขาว
สู่ปลาดอร์ลี่ในปัจจุบัน
     
       ใจความโดยสรุปนั้น เขาเผยว่า ผู้ขายระบุชื่อว่าเป็น "ปลาดอร์ลี่แล่" กำกับภาษาอังกฤษว่า
Pangasius Fillet (Pangasius Hypopthalmus) เป็นการให้ข้อมูลแบบไม่ครบถ้วนอาจสร้าง
ความเข้าใจผิดว่าเป็นปลาทะเล หรือปลาชนิดใหม่ เปรียบเทียบกับสินค้าชนิดเดียวกันที่อเมริกามี
การระบุรายละเอียดชัดเจนว่าเป็นปลาเลี้ยงจากฟาร์มในประเทศเวียดนาม ใช้ชื่อการค้าว่า Swai
       
       “จริงๆแล้วคนขายเขาก็ไม่ได้หลอกเพราะเขียนภาษาอังกฤษ พร้อมกำกับด้วยศัพท์วิทยาศาสตร์
ไว้เห็นชัดๆว่าPangasius hypophthalmusแต่ผู้บริโภคทั่วไปไม่ทราบว่านี่คือ ปลาสวายธรรมดา”


       
       ทั้งนี้ ความเป็นมาของการแปลงปลาสวายให้กลายเป็นปลาเลิศหรูในชื่อ ปลาดอร์ลี่นั้น มาจากที่ว่า
โดยปกติแล้ว เนื้อของปลาดอร์ลี่นั้นจะมีสีเหลืองไม่น่ากิน แต่ปลาดอร์ลี่จากประเทศเวียดนามกลับมีสีขาว
อมชมพูน่ารับประทาน ซึ่งเคยมีการเข้าใจผิดในหมู่เกษตกรเพาะเลี้ยงด้วยว่า ปลาดังกล่าวนั้นคือปลาเผาะ


       
       เขาเผยว่า เมื่อก่อนนั้น รองนายกรัฐมนตรี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เคยมีไอเดียการเลี้ยงปลาสวายเนื้อขาว
(โดยคิดว่านั่นคือปลาเผาะ) เลยเอามาส่งเสริมที่จังหวัดนครพนมภายใต้แผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดผู้ว่าฯ
ซีอีโอ เมื่อปี 2547 - 49 เพื่อการส่งออกไปประเทศสเปน ทั้งนี้ตัวเขาเองในฐานะที่เป็นเกษตกรก็ยอมรับว่า
เข้าใจผิดว่าปลาสวายเนื้อขาวที่ชาวเวียดนามเลี้ยงคือ "ปลาเผาะ"(Pangasius bocourti) ที่เป็นปลาธรรมชาติ
อยู่ในแม่น้ำโขง ปลาชนิดนี้ชาวนครพนมรู้จักดีมีเนื้อสีขาวอมชมพู เพราะจับมากินเป็นอาหารชั้นเลิศ เช่น ผัดฉ่า
ต้มยำ ขายราคาแพงๆในร้านอาหารดังๆ

     
       
       แต่โครงการดังกล่าวก็ขาดทุนด้วยเหตุผลด้านรายละเอียดของวิธีการเลี้ยง และความจริงก็เปิดเผยให้รู้โดย
ทั่วกันว่า ปลาเนื้อขาวนั้นแท้จริงแล้วคือปลาสวาย ทว่าความเข้าใจนั้นก็ยังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือโดยพ่อค้าหัวใส
ที่ตั้งชื่อเนื้อปลานั้นว่า ปลาดอร์ลี่


       
       “คนไทยโดยทั่วไปรังเกียจปลาสวายเพราะเนื้อเหลืองไม่น่ากิน แต่พอไปเจอปลาดอร์ลี่เนื้อออกสีขาว
อมชมพูดูสวยงามน่ากิน ก็ยอมจ่ายเงินราคาแพงๆ เพราะคิดว่านี่แหละของดี แต่ที่ไหนได้เข้าใจผิดยิ่งกว่า
ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม เมื่อปี 2504”


       
       เขาเผยถึงประสบการณ์การไปดูงานที่เมือง Can Tho ประเทศเวียดนาม ในคราวประชุม 17th
Annual Meeting of MRC Fisheries Program 25-26 November 2010 ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้าน
ประมงจากหลายประเทศไปประชุมกัน โดยฝ่ายไทยมีผู้เชี่ยวชาญจากกรมประมง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทั้งนี้ทุกคนต่างยืนยันว่าที่เขาเลี้ยงในบ่อดินริมแม่น้ำ และเข้าโรงงานแร่เป็นชิ้นเนื้อสีขาวอมชมพู คือ
"ปลาสวายธรรมดา" โดยชื่อวิทยาศาสตร์ Pangasius Hypopthalmus แต่ชาวเวียดนามมีวิธีทำให้
ปลาสวายมีเนื้อสีขาวด้วยเทคนิค 2 ข้อ คือ
       
       1.เลือกอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดสีเหลืองเข้าไปแทรกในไขมัน เช่น อย่าให้มีอาหารที่เป็นข้าวโพด และ
เนื่องจากเมืองนี้อยู่ใกล้ปากแม่น้ำ (ใกล้ทะเล) จึงสามารถหาซื้ออาหารโปรตีนจำพวกปลาป่นราคาถูกๆ
       
       2.มีการถ่ายเทน้ำให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา พวกเขาโชคดีที่เมืองนี้อยู่ใกล้ทะเลทำให้มีน้ำขึ้นและน้ำลง
จึงสามารถถ่ายน้ำเข้าและออกจากบ่อดินได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำให้สิ้นเปลืองพลังงาน


       
       “ด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้ปลาสวายธรรมดามีเนื้อสีขาวอมชมพู ในต้นทุนที่ต่ำ สามารถส่งออกตีตลาดได้
ทั่วโลก เฉพาะตลาดอเมริกาแห่งเดียวพี่แกก็รับทรัพย์ไปแบบเต็มๆ”


       
       นอกจากนี้ เขายังเผยถึงความเห็นของ ดร.นฤพล สุขุมาสวิน จากสำนักผู้เชี่ยวชาญกรมประมง เมื่อ
วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ในการประชุมเกี่ยวกับตัวชี้วัดเพื่อประเมินโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ที่จังหวัด
อุดรธานี เผยว่ากรมประมงได้ขอความร่วมมือกับ อย. เพื่อสั่งให้เอกชนที่นำเข้าปลาสวายเนื้อขาวจากเวียดนาม
ภายใต้ชื่อการค้าว่า "ปลาดอร์ลี่" ให้ระบุในฉลากว่านี่คือ "ปลาสวายธรรมดา" แต่เอกชนหัวการค้าใส่เพียง
ชื่อวิทยาศาสตร์ในฉลากว่า Pangasius hypopthalmus


       
       “แล้วพี่ไทยตาดำทั่วไปจะรู้หรือว่าเจ้าชื่อวิทยาศาสตร์นี่คือปลาสวายธรรมดาๆ ผิดกับกฎหมายอเมริกัน
ที่เขาให้ระบุในฉลากว่า "ปลาเลี้ยงในฟาร์ม นำเข้าจากเวียดนาม" (Farm Raised......Product of Vietnam)”



       
       จากปลาสวายธรรมดากลายเป็นอาหารชั้นดี ดูไฮโซขึ้นโต๊ะอาหารฝรั่ง ทั้งนี้ ปลาดอร์ลี่ตัวจริงที่มี
ราคาสูงนั้น แท้จริงแล้วอยู่ในทะเลลึกที่มหาสมุทแอตแลนติก และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเนื้อแน่น น่ากิน
และมีชื่อเล่นว่า "จอห์น ดอร์ลี่" (John Dory) ชื่อวิทยาศาสตร์ Zenopsis conchifera เขาเผยว่า
เปรียบเทียบกันแล้ว สเต๊กปลาดอร์ลี่ตัวจริงจะมีรูปร่างกลมๆ ป้อมๆ ส่วนสเต๊กปลาดอร์ลีปลอม รูปร่างจะยาวๆ
เพราะเป็นปลาสวาย ผู้บริโภคสเต๊กนั้นถูกแหกตามาโดยตลอด



       




>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000072691


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ โสภณ

  • ผู้ช่วยแอตมิน
  • *******
  • ออฟไลน์
  • 738
    59
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

ซื้อประจำที่แมคโคร ของCP เนื้อปลา800กรัมรวมบรรจุ1000กรัมราคา129บาท แต่ไม่มีกลิ่นปลาสวาย เลยไม่รู้ว่าโดนต้ม

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ คนนนท์

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 678
    271
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

ผมก็เห่อกินกะเขาเหมือนกัน  เพิ่งรู้ว่าถูกหลอก อิ อิ  :'e:94

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ บีดนครชุม

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 163
    14

ขอบคุณในข้อมูลที่ดี ทำให้ผู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อนได้เข้าใจ เป็นประโยชน์มากครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165


รู้มานานแล้วว่าคือปลาสวายเวียดนาม ร้านอาหารบอกมา ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ ภูฤดู ปักซัว

  • Administrator
  • *
  • ออฟไลน์
  • 4207
    3176
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

ปีสองปีก่อน ผมซื้อบ่อยๆเลยครับ
ซื้อมาทำให้ลูกกิน บ่อยๆขึ้น ลูกคงเลี่ยนมั้ง ไม่ยอมกิน

หลังๆเลยไม่ได้ซื้อมาทำ

เพิ่งรู้ที่มาของมัน ก็วันนี้แหละครับ

ขอบคุณมากๆครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165
<a href="http://www.clocklink.com/clocks/5032-orange.swf?TimeZone=GMT0700&amp;" target="_blank" class="new_win">http://www.clocklink.com/clocks/5032-orange.swf?TimeZone=GMT0700&amp;</a>

ออฟไลน์ น้ำหวานเจี๊ยบ

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 268
    58

ขอบคุณพี่วิทยาครับ กว่าจะรู้ก็กินไปซะเยอะแล้วครับ :'e:56

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ พงษ์กิติ

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 8
    2

ผมทราบมาพักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังชอบกินครับ ทั้งสวายไทย สวายเวียดนาม

สวายไทยผมชอบเอามาแช่น้ำปลาแล้วทอด
ส่วนสวายเวียดนามเอามาทำต้มยำสุดยอด กินง่ายดีไม่มีก้าง หุหุหุ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ ชีวาส แปดริ้ว

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 12
    2

แต่ริ้วเนื้อมันไม่เห็นเหมือน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ ประดิษฐ์

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 841
    112
    • อีเมล์

ไม่โดนหลอก เพราะกินแต่ปลาทู กับปลาซิว อิอิ :'e:79

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165


ต้องระวังแล้วค่ะสมัยนี้มีของแปลกปลอมมากมาย อันตรายมากๆ :'e:7

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ ธนากร แปดริ้ว

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 7
    2
    • อีเมล์

เนียนเลยครับ เวลาไปซื้อจะได้ข้อเปรียบเทียบ เป็นความรู้อีกขั้นหนึ่งเลยนะครับ :'e:37

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ โซล

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 24
    3

กระจ่างแจ้งเลยทีนี้ ขอบคุณครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ พอใจ

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 83
    14

เคยอ่านเจอมาเหมือนกันค่ะ  แต่ก็ยังทานอยู่บ้างนะคะ  เพราะติดใจในรสชาดค่ะ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165

ออฟไลน์ นราวิชญ์

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 18
    2

เป็นปลาชื่ออะไรแต่ยังไงรสชาติก็เหมือนเดิมนะครับ กินหมด  :'e:133 :'e:133

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16165