บทเพลง...และเรื่องราวของ...สุเทพ วงศ์กำแหง

[ภูแมว]

• PM

เพลง "นครศรีที่รัก" ผู้แต่งคำร้อง/ทำนอง คือ คุณอโนชา สัญญากิจ ค่ะคุณจรีพร 

ส่วนเพลง "ล่าสวาท" ถ้าไม่ใช่คำร้อง/ทำนองคือ คุณสมาน กาญจนผลิน ก็จะเหลืออีก 2 ท่านคือ คุณพยงค์ มุกดาพันธ์ หรือคุณสง่า อารัมภีร ค่ะ ตามไฟล์ภาพนี้ค่ะคุณจรีพร 



   

[จรีพร]

• PM

เพลง "นครศรีที่รัก" ผู้แต่งคำร้อง/ทำนอง คือ คุณอโนชา สัญญากิจ ค่ะคุณจรีพร 

ส่วนเพลง "ล่าสวาท" ถ้าไม่ใช่คำร้อง/ทำนองคือ คุณสมาน กาญจนผลิน ก็จะเหลืออีก 2 ท่านคือ คุณพยงค์ มุกดาพันธ์ หรือคุณสง่า อารัมภีร ค่ะ ตามไฟล์ภาพนี้ค่ะคุณจรีพร 



   

 

สำหรับข้อมูลค่ะ   

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณkongsimcai และ youtube


     เพลง "โถ...คุณ"   

คำร้อง  : อ.กวี สัตโกวิท
ทำนอง  : ประสิทธิ์ พยอมยงค์
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

  โธ่เอ๋ย...กรรมของคุณแท้ ๆ
คุณมาแหย่มาเย้าผมทำไม
โถ...คุณไม่น่าว่าผมปลงใจ
ว่าผมหม่นไหม้ ว่าใจผมวุ่น

นี่หรือคุณว่ากรรมแท้ ๆ
คุณช่างแก่เวทนาการุณ
โถ...เป็นไปได้ แม่เจ้าพระคุณ
ใช่จะหมกมุ่นแต่คุณนั้นเลย

ผมก็รู้ผู้หญิงอื่นมีถมไป
ผมยังไม่ได้เลือกใครชื่นเชย
คิดว่าผมปักใจเปล่าเลย
เฉย ๆ เพราะผมรักใครก็ได้

โธ่เอ๋ย...กรรมของใครไม่รู้
ผมจะอยู่อย่างสิ้นหวังทำไม
ถึงคุณไม่บอกผมก็กลับใจ
ผมจะบอกให้ว่าบุญของผมแล้วเอย

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณนฤรัตน์ เพชรบุรี และ youtube


     เพลง "คนใจเดิม"   

คำร้อง/ทำนอง  : ทวีพงศ์ มณีนิล
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

นี่หรือ คนรักที่แสนเทิดทูน
เคยอิงแอบชีวิตอุ่น หวานล้ำเกินจำนรรจา
กลับมาเป็น ขื่นขมเมื่อชังน้ำหน้า
ใจเดิมที่เคยซึ้งค่า ก็โดนเขาว่าหลายหน้าใจผี

ถ้าฉัน ผิดคำเลยล้ำมอบใจ
อย่าเสียใจเลยเฉยไย ฆ่าฉันให้ตายเสียซิ
ให้จบสิ้น สิ่งเคืองระคางฤดี
หมดตัววุ่นวายชีวี ได้นอนฝันดีไม่มีกังวล

คำคนเชื่อได้จริงหรือ
ใจฉันมั่นคงแสนซื่อ ยังรักยังหวงหน้ามล
หลงเชื่อคำพูดอกุศลรักเราจึงยับอับจน
ชอกช้ำหัวใจเหลือที่

 ห่างไกล ห่างไกลออกไปทุกวัน
ต่างเดินหันหลังให้กัน ด้วยหัวใจดื้อถือดี
หากวันใด ความจริงทุกสิ่งบานคลี่
อาจนอนน้ำตาไหลปรี่ คิดถึงกันจนวันสิ้นใจ 


   

       

[จรีพร]

• PM

เครดิต : คุณdaorueng3000  และ youtube


  เพลง "จะนานเท่าใด"   

คำร้อง :  ร้อยแก้ว รักไทย
ทำนอง : มงคล อมาตยกุล
ผู้ขับร้อง :สุเทพ วงศ์กำแหง

จะนานเท่าใด ฉันจะคอย
สุดมือเอื้อมสอยฉันจะปอง
ถึงเป็นนางแก้วหรือเป็นยูงทอง
ฉันจองครองคู่สู่สม

จะนานเท่าใดฉันจะรอ
เฝ้าคอยพนอรักชื่นชม
ฉันคอยเธอได้ หมายใจภิรมย์
หวังชมเพียงเธอนางเดียว

หญิงอื่นทั่วแดนหมื่นแสนมิรักได้
รักเหนือดวงใจแด่เธอแท้เทียว
นางไหนมิสมัคร ร่วมรักและข้องเกี่ยว
ตอบหน่อยคำเดียว รอคอยมานาน

จะนานเท่าใดฉันจะทน
หวั่นในกมลรักจะราน
เมตตาสักหน่อย ฉันคอยมานาน
วิมานฉันคอยเธอครอง

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณAphirakchuchai78  และ youtube


     เพลง "การคอยที่ไร้ค่า"   

คำร้อง/ทำนอง  : จงรัก จันทร์คณา
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

ค่าแห่งการคอย ฉันรู้ดีไม่มีประโยชน์
เหมือนนักโทษรอปราณี ที่แดนประหาร
ห้วงแห่งความหวัง ดังหนึ่งห้วงทรมาน
ห้วงใจที่เคยสัมพันธ์ ยิ่งนานวันดูยิ่งจืดจ­าง

ค่าแห่งตัวฉัน เปรียบเหมือนใบไม้ใกล้จะเก่า
วันแสนเศร้าคือวันเธอ สลัดทิ้งขว้าง
ร่วงสู่ลานดิน คงสิ้นหวังทุกอย่าง
ต้องปลิวระดาษทั่วทาง กว่าผุพังเป็นผงธุลี

วันนั้นฉันรู้ดี ไม่มีสำหรับเรา
วันนั้นเปรียบเหมือนเงา คลุมโลกให้เป็นราตรี
วันนั้นมืดมน เกินชีพชนม์เล็ก ๆ เช่นนี้
วันนั้นฉันรู้ดี ไม่มีแม้ถึงวันตาย

ค่าแห่งความรัก จึงเหมือนดังภาพลวงมายา
ดูไร้ค่าเพียงลวงตากลางทะเลทราย
เป็นภาพของขวัญ แด่คนกระหายใกล้ตาย
หรือรอสิ้นลมหายใจ จึงเป็นวันเห็นใจจากเธอ

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณAphirakchuchai78  และ youtube


     เพลง "ฟ้ารำลึก"   

คำร้อง  : อ.กวี สัตโกวิท
ทำนอง  : เกษม มิลินทจินดา
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

ฟ้าไสว พาหัวใจหวลเฝ้าครวญหา
เพ้อเรียกหาน้องข้า นิจจาใยเล่าเจ้าด่วนหนี
ดวงจันทร์อันสุกสกาว แสงดาวพราวพรายริบหรี่
แต่ทำไมคืนนี้ จึงขาดน้องพี่ให้พี่ชม

สิ้นสลาย รักมากลายเปลี่ยนให้อับเฉา
ทุกข์ท่วมท้นเหลือเดา รักเดียวตัวเราจึงต้องขื่นขม
เพ่งจันทร์พรายพร่าลางเลือน แสงเดือนเตือนให้สุดข่ม
อกเราต้องระบม ระทมใจหนักเพราะรักกลับกลาย

รักเอย รักเคยเชยชื่นชิดชม
สองเราเคยร่วมภิรมย์ เสพสุขสม ไยมาแหนงหน่าย
เคยสัญญา ว่ารักนี้จักไม่กลาย
จะรักแท้มิรู้หน่าย มิเสื่อมคลายจวบดินและฟ้า

ฟ้าไสว พาหัวใจหวลให้ใฝ่ฝัน
ฟ้านั้นยังมีวัน เมฆพลันลอยห่างกระจ่างเวหา
แต่เรายังสุดมืดมน ต้องทนสู้ไปจนกว่า
ฟ้าจะกรุณา ชักพาเธอกลับมากับจันทร์

ที่มาของเพลง "ฟ้ารำลึก"

เพลงนี้ ขับร้อง บันทึกเสียง โดย สุเทพ วงศ์กำแหง เป็นเพลงแรกที่แต่งขึ้นในชีวิต เมื่อปี พ.ศ. 2502

อ. กวี สัตโกวิท บอกว่า

“... แต่งเป็นเพลงแรก เมื่อปี พ.ศ. 2502 แต่ได้อัดเสียง เมื่อปี พ.ศ. 2504 ที่ห้องอัด อัศวินภาพยนตร์ ช่วงคุณสุเทพ วงศ์กำแหง กลับมาจากญี่ปุ่นหมาด ๆ

 เพลงนี้ร่วมแต่งกับ ครูเกษม มิลินทจินดา ซึ่งเป็นเสมือนครู ผู้บุกเบิกให้ได้เรียนรู้วิธีการแต่งเพลง จากที่แต่งเพลงไม่เป็นเลย ก็รู้วิธีการจาก ครูเกษม นี่แหละ...”

"สุเทพ วงศ์กำแหง" ศิลปินแห่งชาติ เขียนถึง อ.กวี สัตโกวิท เอาไว้ใน สูจิบัตร คอนเสิร์ต ฝากฟ้า ฝากฝัน เหนือกาลเวลา ว่า...

“...ราวๆ กลางปี 2505 เห็นจะได้ พี่เกษม มิลินทจินดา พี่เอื้อยและนักแสดงรุ่นใหญ่แห่งวงการบันเทิงที่ทุกคนรู้จักดี แถมให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ได้โทรศัพท์มาถึงผม ให้ไปอัดแผ่นเสียง ที่ท่านแต่งเอาไว้กับ นักแต่งเพลงรุ่นใหม่คนหนึ่ง ซึ่งท่านก็ไม่ได้บอกกับผมหรอกว่า นักแต่งเพลงคนนั้นคือใคร

 เมื่อผมไปถึงห้องอัดเสียงของ บริษัทอัศวินการละคร ที่อยู่ในซอยนาคราช ผมก็ขึ้นไปบนชั้น 3 จนพบ
 พี่เษม พร้อม ๆ กับ วงดนตรีของ พันจ่าอากาศเอก ปรีชา เมตไตรย์ (พี่ไย) ซึ่งเล่นเพลงอื่นคอยอยู่แล้ว พี่เษม ก็มอบเนื้อ เพลงฟ้ารำลึก มาให้

 ผมอ่านดูเนื้อเพลงแล้ว ก็รู้สึกสงสัยนิดหน่อยเกี่ยวกับผู้แต่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า อ.กวี สัตโกวิท เป็นชื่อที่ผมไม่เคยผ่านสายตามาเลย

“พี่เษม ครับ คุณกวี เขาเป็นอาจารย์ที่ไหนเหรอครับ”

 “เขาไม่ได้เป็นอาจารย์ที่ไหนหรอก ดูเหมือนเขาจะชื่อ อุดม วรรษกวี หรืออย่างไรเนี่ยะ เขาคงเห็นมันยาว ก็เลยตัดให้มันสั้น ๆ ด้วยคำย่อ อุดม เป็น อ. เฉย ๆ” พี่เษม เฉลย

 ผมก็เลยถึงบางอ้อ ในนาทีนั้นเอง
 ความจริง เพลงฟ้ารำลึก เป็นเพลงใหม่ ที่คุณอุดม แต่งเป็นเพลงแรกของเขาก็ว่าได้ แต่ถ้อยคำที่เขาใช้ ในเพลง มีสัมผัสเกือบทุกท่อน อย่างไม่มีที่ติ จึงไม่น่าแปลกใจ แต่อย่างใด ที่เพลงนี้ ได้รับการตอบรับจากนักฟังเพลงดีทีเดียว...”

และ ใน สูจิบัตร คอนเสิร์ต ในบทเพลงมีนิยาย สุเทพ วงศ์กำแหง เขียนเอาไว้อีกว่า
“...ในแวดวงนักประพันธ์เพลงไทยของนักแต่งเพลงนั้น หากจะนับผู้ทำงานดีเด่นให้ประชาชนคนไทยทั้ง หกสิบกว่าล้านคน มีความสุขสดชื่น สุนทรีย์ทางอารมณ์ ก็พอมีอยู่บ้าง แต่ไม่มากจนเดินชนไหล่กัน แล้วไม่รู้ว่า ใครเป็นใคร เพราะสังคมไทย ไม่ได้กว้างขวางเกินไปนัก

 ช่วงระยะเวลาหลังปี 2503 เป็นต้นมา เมื่อผมพยายามหาทางบินกลับจากญี่ปุ่นอย่างทุลักทุเล เพราะเงินหมดเกลี้ยงกระเป๋า แล้วเริ่มต้นร้องเพลงเพื่อหาชื่อเสียงที่หายไปกลับคืนมา พร้อมกับหาเงินส่งคืนไปใช้หนี้ที่ค้างคาในญี่ปุ่นจนหมด จนกระทั่งเรียกคืนชื่อเสียงที่มันหายไปในช่วงที่ผมไม่อยู่เมืองไทยกลับคืนมาจนได้ จนเป็นสุเทพ วงศ์กำแหง คนเก่า

 จึงได้มีนักแต่งเพลงหน้าใหม่หลายๆ คน ดาหน้าเข้ามาแต่งเพลงป้อนให้ผมร้อง หาชื่อเสียงใหม่อีกหน ทำให้ผมได้รู้จักหน้าค่าตา นักแต่งเพลงรุ่นใหม่ รวมทั้ง อ.กวี สัตโกวิท ที่ผมจะกล่าวถึงนี้

เครดิต : หนังสือตำนานครูเพง เพลงไทยสากล ลูกกรุง โดย คีตา พญาไท

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณนฤรัตน์ เพชรบุรี  และ youtube


     เพลง "หากเป็นได้ดั่งฝัน"   

คำร้อง/ทำนอง  : ?
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง


หากฉันเป็นได้ดังฝัน
ขอเป็นครุฑสักวันคงดี
จะโฉบพาเธอไปฉิมพลี
เพื่อเริงโลกีย์บนวิมาน

นี่ฉันเป็นได้แค่คน
ซ้ำยังแสนยากจนเกินการณ์
หมดเดชพาเธอเยี่ยมวิมาน
ต้องทนในความผิดหวังผลาญใจ

แม้ฉันมีปีกเช่นครุฑ
จะโฉบเข้าฉุดเธอไป
ไม่ยอมให้เธอเป็นของใคร
เพราะเธอคือสุดหัวใจฉัน

แต่แล้วฉันต้องผิดหวัง
สุมความทุกข์เข้าฝังชีวัน
เป็นคนที่มีธรรมะเหมือนกัน
จึงยอมให้เธอนั้นสูญไป

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณ และ youtube

     เพลง "เชียงรายรำลึก"   

คำร้อง/ทำนอง  :  โกวิท เกิดศิริ
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

ณ ราตรีหนึ่ง ซึ่งยังฝังใจ
เชียงรายฟ้าแจ่ม คืนนั้นวาวแวม
ด้วยแสงจันทรา นภาสดใส

ริมน้ำกกเย็น ด้วยลมพริ้วผ่าน
ซ่านซึมผิวกาย คืนนั้นเชียงราย
มีเธอและฉัน ร่วมสัมพันธ์ไม่คลาย
   
หนาวเย็นลมยิ่ง เราอิงซบกัน
ดวงจันทร์คล้อยต่ำ คืนนั้นยังจำ
ริมน้ำราตรี ที่มีจันทร์ฉาย

ไฉนมาลืม รักเราเคยสร้าง
ริมฝั่งเชียงราย เมื่อคืนเดือนหงาย
นิยายสวาท บาดหัวใจไม่ลืม

 

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณRose Pink  และ youtube


     เพลง "ขอใจให้พี่"   

คำร้อง  : สุนทรียา  ณ เวียงกาญจน์
ทำนอง  : สมาน  กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

  พี่มีรักเดียวคือเจ้า
แล้วคิดบ้างหรือเปล่า ทุกวันพี่เศร้าโศกชีวี
เจ้าช่างไม่ไยดี

เจ้าทำเหมือนแกล้งให้พี่สิ้นสุขศรีชีวา
แม้เพียงวาที มิมีวาจา พาชื่นฉ่ำ
แม้แต่เพียงน้ำคำมิเคยเผยพร่ำวาจาว่าวอน

 เจ้าเคยรู้บ้างหรือไม่พิษรักเป็นฉันใด
ทุรนทุรายรุ่มร้อนยิ่งความรักแคลนคลอน
เจ้ามีทั้งแง่ทั้งงอน ยิ่งสะท้อนทรวงใน

คิดกลัวนานา  มิว่าใครใคร หวั่นไหวฤดี
วอนเลิกงอนกันเสียที
ขอใจให้พี่ เทิดทูนเถิดเอย

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณdolldulya และ youtube

     เพลง "หนึ่งในจักรวาล"   

คำร้อง/ทำนอง  : พยงค์ มุกดา
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

อาภัสรา   อาภัสรา
อาภัสรา  อาภัสรา
อาภัสรา โสภา โสภิตกว่านางไหน
นางฟ้าโสภาเพียงใด
ยังไม่ซึ้งใน ฤทัยให้เก็บไปฝัน

อาภัสรา จุติมาคู่ฟ้า คู่จักรวาล
ดอกฟ้าไร้ค่าชั่วกัลป์
แสงดาวสกาวจันทร์ ก็พลันหมดสิ้นความหมาย

งามใดในหล้า งามเสียกว่าความงามไหน ๆ
งามพร้อมทั้งรูป ทั้งวาจา งามที่ใจ
มารยาทงามสดใส ตรึงใจยามยิ้มพริ้มพราย

อาภัสรา  จุติมาจากฟ้า จากดาวดวงใด
มาปลุกโลก ปลุกวิมานผ่านหัวใจ
นี่แหละหญิงไทย.. หนึ่งในจักรวาล

[จรีพร]

• PM

เครดิต : คุณ dolldulya  และ youtube


เพลง "อนงค์เวียงเหนือ"   

คำร้อง/ทำนอง  : สง่า อารัมภีร
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

แหงนดูดวง ดารา ฟ้าเชียงใหม่
กลางกลิ่นไอ เอื้องหอม ย้อมใจฉัน
หนึ่งนารีลีลาลงมาพลัน
จากสวรรค์ จับสวาท เยื้องยาตรกาย

จับดวงจิต สนิทแน่น แสนสุดรัก
โอ้.. งามนัก สาวเหนือ แม่เครือฟ้า
เจ้าเป็นศรี เมืองแมน แดนลานนา
แนบอุรา ด้วยรัก และ ภักดี

นางใจเดียว เหนียวแน่น แสนจงรัก
สงวนศักดิ์ ปรากฎ ยศสาวศรี
โอ้...เครือฟ้า นางฟ้า ยอดนารี
เป็นสักขี  แห่งความรัก สลักใจ

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณdolldulya  และ youtube


     เพลง "จงทำดี" 

คำร้อง/ทำนอง  : ?
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

คนเราเกิดมา มีหู มีตา มีปาก มีฟัน
แขน มือนั้น เหมือนกันไม่ว่าใครๆ
บางคนอ้วนพี บางผอมก็มีเห็นอยู่เกลื่อนไป
สังขารเราไซร้ เหมือนกันไปทั่วทุกคน

สูง ๆ ต่ำ ๆ ดำขาว ผิวหม่น
สวยงามล้น ทุกคนก็ไม่เหมือนกัน
เราจงทำดี มาสิ ทำดีเป็นสิ่งสำคัญ
สวยงามนั้น ไม่สำคัญเท่ากับจิตใจ 

[จรีพร]

• PM

[ Invalid YouTube link ]
เครดิต : คุณbang10baht  และ youtube


เพลง "ชุมทางชีวิต"

คำร้อง : นริส ทรัพย์ประภา
ทำนอง : อดิเรก จันทร์เรื่อง
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

โอ้ดวงชะตา นี่หนาพระพรหมลิขิต
หนทางชีวิต คิดอยู่อย่างมีจุดหมาย
เกิดมาทุกคน ชาตินี้ไม่หนีความตาย
เมื่อยังไม่สายเกินไป ให้สร้างความดี

ผู้ดีหรือไพร่ ไม่พ้นทุกคนต้องสู้
ร้อยพันมองดู ล้วนอยู่สู้เพื่อศักดิ์ศรี
เมื่อใครรู้ตัว อย่ามัวรอช้า รอฟ้าปรานี
สู้อย่าเมินหนี ไปในกลางชุมทางชีวี

ผู้ดีหรือไพร่ ไม่พ้นทุกคนต้องสู้
ร้อยพันมองดู ล้วนอยู่สู้เพื่อศักดิ์ศรี
เมื่อใครรู้ตัว อย่ามัวรอช้า รอฟ้าปรานี
สู้อย่าเมินหนี ไปในกลางชุมทางชีวี

[จรีพร]

• PM

เครดิต : คุณdaorueng3000 และ youtube


     เพลง "ใครจะอยู่ค้ำฟ้า"   

คำร้อง  : ไสล ไกรเลิศ
ทำนอง  : สุทิน เทศารักษ์
ผู้ขับร้อง : สุเทพ วงศ์กำแหง

ชีวิตนี่หนอ ท้อใจหม่น
วนหมุน ตามบุญสร้าง
อนาถ หม่นหมาง ทุกข์ไม่สร่าง เกิดมา
คล้ายนก ผกไร้คอน เหินจรไปกว่า
ตามเเกณฑฺชะตา วก พ้น
ชีวิตผิดหวัง รั้งลงต่ำ
ถลำลอย...ละล่อง
อนาถหม่นหมอง คล้ายมองโลก มืดมน
สูงคว้าง อยู่วับวาว แม้ดาวยังหล่น
ยามเราอับจน คนมองเมิน

บางคนเด่นอยู่ มองดูถลา
ใครจะอยู่ ค้ำฟ้า เด่นเหิน
สูงนึกอยู่เขาเขิน เห็นคนเหยียดมองเมิน
แท้เพลินอยู่ ทำเวรกรรมไว้

ชีวิตหวั่นไหว ช้ำใจสุข
ไกลทุกข์ กังวลห่าง
เกิดแก่ ดับร้าง ล้วนพาร่างจากไป
ยิ้มไว้โลกน้อมนำ ศีลธรรมเป็นใหญ่
ทำดีสืบไป ใจสุขเอย