ผู้เขียน หัวข้อ: "มะเขือพวง" มีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนโบราณหลายประการ  (อ่าน 4191 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ สุบิน

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 2334
    646
    • อีเมล์



สรรพคุณเหลือเชื่อ

   นักวิจัยของคณะเภสัชศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้วิจัยเรื่องสรรพคุณ วิเศษของมะเขือพวง  ผักพื้นบ้านของไทย  และพบว่า  เป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมาก  เนื่องจาก  มีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระ  ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวาน   มีเส้นใยที่ช่วยดูดซับไขมันส่วนเกินได้ดีเยี่ยม  เรียกว่า เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักวิจัยและคนไทยทั่วไป  เนื่องจาก มะเขือพวง  เป็นพืชคู่ครัวคนไทยมาช้านาน ไม่ว่าเราจะกินแกงเขียวหวาน  แกงเนื้อ  แกงป่า  น้ำพริกากะปิ  หรือผัดเผ็ดบางชนิด  สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ "มะเขือพวง"  แสดงให้เห็นว่า  ตำหรับอาหารที่สืบทอดมาแต่โบราณ  บรรพบุรุษของเรา  มิได้คำนึงถึงรสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองไปถึงสรรพคุณของพืชผัก แต่ละชนิดเป็นส่วนสำคัญอีกด้วย

       "มะเขือพวง"  มีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนโบราณหลายประการ  เช่น  ช่วยเจริญอาหาร  ช่วยระบบขับถ่าย  บำรุงธาตุ  ขับเสมหะ แก้ไอ  ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี  แก้ปวด  ฟกซ้ำ  ปวดกระเพาะ  แก้อาการฝีบวมหนอง  อาการบวม  อักเสบ  ขับปัสสาวะ  ทั้งนี้  จากการศึกษาวิจัย  ทำให้พบว่า   
 1.  มะเขือพวงมีสารจำพวก  "ไฟโตนิวเทียนท์"  ที่จะช่วยร่างกาย ในสภาวะขาดสารอาหาร  ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ

      2.  มีกลุ่มสาร "ทอร์โวไซด์"  ซึ่งช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำโคเลสเตอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น  รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของโคเลสเตอรอลในลำไส้ด้วย  จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่ง

     3.  ในมะเขือพวงมีสาร  "ซาโปนิน"  ทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ

     4.  มะเขือพวงเป็นพืชที่มีเส้นใยมากที่สุด  เมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทยทั้งหมด  จนได้รับสมญานามเป็น "ราชาแห่งผักพื้นบ้าน  ในเรื่องของสารเส้นใย"  โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3  เท่า  และมากกว่ามะเขือเปราะถึง  65  เท่า  เส้นใยในมะเขือพวง  มีชื่อเรียกว่า  "เพกติน"  ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำได้
     สารนี้ จะสามารถเปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้  ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง  จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป  ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้
     อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เปิดเผยว่า

     "สารเพกตินในมะเขือพวง  ช่วยในการดูดซับไขมันส่วนเกินออกจากอาหารได้  ซึ่งนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่บรรพบุรุษของไทย  มักจะทำแกงกะทิใส่มะเขือพวง  ซึ่งน่าจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง  และโรคหลอดเลือดหัวใจได้"

     อย่างไรก็ตาม  แม้มะเขือพวงจะเป็นพืชผักที่มีประโยชน์มาก  แต่คณะผู้วิจัยก็ยังบอกว่า  ไม่ควรกินมากเกินไป  เพราะมีสาร  "อัลคาลอยด์"  ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท   และมีผลต่ออวัยวะอื่น ๆ  (เข้าทำนองว่า  อะไร ๆ  ที่เกินประมาณ  ก็เกิดอันตรายได้ทั้งนั้น)



+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/ก.พ./12 12:10น. โดย สุบิน »

ออฟไลน์ อธิปไตย

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 757
    384
  • รักชาติสุดใจ..อย่าลืมไทยบ้านนอก

พืชสมุนไพรใกล้ตัวเลย พบเห็นกันประจำ แถวบ้านผมเขาเรียก "มะแว้ง"ครับ  :'e:39

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625

ออฟไลน์ น้องดา

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 2123
    211
  • เพศ: หญิง
  • -
    • -
    • อีเมล์

อื้อ สรรพคุณมากมายเลยนะคะนี่ มิน่าบางคนไม่ชอบทานมักเขี่ยออกทีนี้ต้องกินละมะเขือพวง(บักแข้ง)บ้านเฮาใส่ในพแนงเนื้อแซ่บหลายเด้อจ้า

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625
-

ออฟไลน์ ชัย

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 230
    78

นี่คือความยอดเยี่ยมของคนโบราณ ในยุคที่ยังไม่มีการวิจัยใดๆ แต่ด้วยความช่างสังเกตุ ทำให้เกิดภูมิปัญญา ในกับข้าวไทยโบราณใช้มะเขือพวงเพื่อถ่วงให้เกิดความพอดีโดยเฉพาะถ่วงไขมันทั้งหลาย คนโบราณจึงกินแกงกะทิได้อย่างปลอดภัย อีกตัวอย่างหนึ่ง ก็คือน้ำผึ้ง ตัวน้ำผึ้งเป็นกรด ถ้าผสมน้ำกินหรือผสมอย่างอื่นก็จะให้กรด เกินกับร่างกาย แต่ถ้านำไปผสมกับมะนาว ซึ่งมะนาวก็เป็นกรดเหมือนกัน แต่แปลกที่ทั้งสองเมื่อผสมกันกลับเป็นกลาง กินได้อย่างปลอดภัย ขอบพระคุณพี่ที่เริ่มกระทู้ที่เป็นประโยชน์มากครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625


    ภาษาเมืองวันละ 2 คำครับ...

   มะแคว้ง = มะเขือพวง /

  มะแคว้งขม = มะแว้ง / .........รูปร่างคล้าย ๆ กัน แต่มะแว้ง ลูกเล็ก และขม...(เริ่มชอบของขมแล้วละครับ......อายุมากขึ้น)


                                                           psi109

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625
สะลิด สะลัก ขึ้นต้นต๋องเต๋ย หยังมาใคร่เกย ปี้น้องบ้านนี้

ขดตะหวาย หงายโอ้งตี๋น กิ๋นลาบหลู้ อู้กำเมือง


ปกติเวลากินแกง หรือน้ำพริกกะปิ มะเขือพวงคือสิ่งแรกที่ผมจะเขี่ยออก  :'e:39
แต่ได้มาอ่านข้อมูลที่พี่สุบินโพสท์แล้ว คงต้องพยายามตักเข้าปากบ้าง   :'e:56
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625

ออฟไลน์ เวียงสา980

  • ผู้ช่วยแอตมิน
  • *******
  • ออฟไลน์
  • 2354
    1470

มะเขือพวง มีสรรพคุณเหลือเชื่อจริงๆค่ะ มี้งให้คุณ และให้โทษด้วย
ชอบกินมากค่ะ เพิ่งจะรู้ว่ามีโทษ ต่อไปจะไม่กินเยอะเกินประมาณอีกล่ะ
ขอบคุณค่ะคุณสุบิน ที่นำสาระดีๆ มาให้อ่าน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625

ออฟไลน์ ประยุทธ

  • เซียน
  • ****
  • ออฟไลน์
  • 492
    15

ทานเป็นประจำ เพิ่งทราบสรรพคุณทางยานี่เอง บ้านผมเรียกหมากแคว้งครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625

ออฟไลน์ บุญช่วย

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 7
    4
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

ดีมากครับ  คงต้องหามาปลูกจะได้มีกินที่บ้าน  ขอบพระคุณครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625

ออฟไลน์ ชัยมงคล ร้อยเอ็ด

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์
  • 0
    3

ชอบทานกับน้ำพริกมากครับเพราะคนเขาบอกว่าเป็นยาวันนี้ได้อ่านจากท่านแล้วได้รับความรู้เยอะมากขอบคุณครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=5625