ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีเขียนเรื่องสั้นแบบง่ายแสนง่าย  (อ่าน 2507 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ บ๊ะเซ็ง แซ่บื้อ

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 118
    19
  • เพศ: ชาย
  • ไม่เบียดเบียนตน ไม่เดือดร้อนคนอื่น



สำหรับท่านที่มีใจรักขีดๆเขียนๆเรื่องราวต่างๆ ไม่รู้จะเริ่มต้นเขียนยังไง ลองอ่านคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมนี้ดูฮะ บางที เส้นผมที่บังตาอยู่อาจจะถูกตัดทิ้งไปได้เมื่อพบแสงสว่างจากอีบุ๊คเล่มนี้ ผมไม่ได้คุยโม้โอ้อวดสรรพคุณเพื่อให้ท่านหลงเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อฮะ ความจริงก็หนีความจริงไม่พ้น เพราะมันง่ายเกินกว่าที่ท่านคิด ผมก็เคยงุมมะงาหรามานานจนได้มาพานพบกับแสงสว่างนี้เข้าตา อิอิ ท่านใดสนใจ จะให้บุตรหลานใช้เวลาว่างให้เป็นเรื่องราวละก้อ ไม่ควรมองผ่าน ไปอ่านตัวอย่างกันเลยฮะ ผมไม่ได้โม้


>>> http://sirsakchai.blogspot.com/2017/04/e-book-how-to-write-short-story.html


ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=38436

ออฟไลน์ บ๊ะเซ็ง แซ่บื้อ

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 118
    19
  • เพศ: ชาย
  • ไม่เบียดเบียนตน ไม่เดือดร้อนคนอื่น
Re: วิธีเขียนเรื่องสั้นแบบง่ายแสนง่าย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 19/เม.ย./18 07:20น. »

                   :'e:72

e Book How to วิธีเขียนเรื่องสั้นง่ายๆ
>>> https://goo.gl/2vkDMR



ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=38436

ออฟไลน์ บ๊ะเซ็ง แซ่บื้อ

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 118
    19
  • เพศ: ชาย
  • ไม่เบียดเบียนตน ไม่เดือดร้อนคนอื่น
Re: วิธีเขียนเรื่องสั้นแบบง่ายแสนง่าย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 22/เม.ย./18 10:14น. »

คุณสมบัตินักเขียน

1. ช่างสังเกตจดจำ นักเขียนที่ดีนั้นต้องสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว คอยเก็บเกี่ยวข้อมูลแวดล้อมที่น่าสนใจ และสามารถนำสิ่งเหล่านั้นออกมานำเสนอต่อผู้อ่านในมุมมองที่แปลกใหม่
2. ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีสิ่งหนึ่งที่ส่งผลให้เป็นนักเขียนที่ดีนั้น มาจากการเรียนรู้อยู่เสมอ ไม่หยุดอยู่กับที่ ไม่หยุดอยู่กับยุคสมัย ขยันตั้งใจเพิ่มเติมความรู้ให้เพิ่มพูนอยู่เรื่อยๆ เก็บเกี่ยวข้อมูลต่างๆ และนำข้อมูลเหล่านั้นมานำเสนอ เพื่อให้เป็นผู้ที่รู้จริง นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง และนำกลวิธีต่างๆทำให้งานเขียนนั้นน่าสนใจ
3. ช่างซัก ช่างถาม  การเป็นคนช่างพูด ช่างถามนั้นไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิด เพราะบางครั้งเมื่อไม่รู้ข้อมูล ควรรีบถาม อย่าปล่อยให้ข้อมูลนั้นผ่านเลยไป นักเขียนที่ดีควรต้องรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง และชัดเจน ไม่ควรนำเสนอข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ จากแหล่งข้อมูลเชื่อถือไม่ได้ และเมื่อจะเขียนข้อมูลใดใด นักเขียนผู้นั้นควรต้องรู้ข้อมูลนั้นเป็นอย่างดี และถูกต้องด้วย
4. มีความสามารถเชิงวรรณศิลป์ สิ่งนี้เป็นข้อดีประการหนึ่งที่ช่วยทำให้งานเขียนมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น วรรณศิลป์เป็นตัวช่วยยกคุณค่าของงานเขียนให้สูงขึ้นจากงานเขียนธรรมดาๆ โดยผู้เขียนแต่ละคนมักมีจุดเด่นในเชิงวรรณศิลป์ที่แตกต่างกันออกไป บางคนถนัดอย่างหนึ่งก็สามารถใช้ศิลปะเหล่านั้นปรากฏอยู่ในงานเขียนได้อย่างแพรวพราว และไม่ดูรกรุงรัง ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดจุดเด่น และแบบแผนเฉพาะตัวของนักเขียนแต่ละท่านที่แตกต่างกันออกไป
5. มานะอดทน แน่นอนว่านักเขียนทุกคนไม่ได้โด่งดังในแวดวงวรรณกรรมได้ เพียงหนังสือเล่มแรก เพียงเล่มเดียว นักเขียนทุกท่านล้วนผ่านการคัดกรองจากผู้อ่าน จนได้รับการยอมรับ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นต้องการเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ขึ้นอยู่กับความสามารถ และองค์ประกอบต่างๆที่คอยส่งเสริม หรือในบางครั้ง บางสถานการณ์ นักเขียนอาจเป็นเพียงกำแพงหนึ่งที่ได้รับการปะทะจากสิ่งต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นแวดวงวรรณกรรม หรือทิศทางอำนาจต่างๆ ที่งานเขียนนั้นส่งผลกระทบไป และในบางครั้งแนวความคิดที่ล้ำหน้าเกินไปอาจทำให้นักเขียนไม่เจริญงอกงามในเส้นทางสายนี้ ซึ่งสักวันหนึ่งจะได้รับการยอมรับ ถ้าไม่ยอมแพ้จนถึงขั้นวางปากกาไปเสียก่อน
6. เป็นผู้ฟังที่ดี มีใจเป็นกลาง การเป็นผู้ฟังที่ดีนั้น ทำให้นักเขียนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ ไม่อยู่เพียงแต่ในกรอบความคิดตัวเอง ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ แล้วเก็บรายละเอียดเหล่านั้นมาถ่ายทอดด้วยกระบวนทางความคิดของตนเอง
7. มีจินตนาการ  งานเขียนที่ดีนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้อย่างยิ่งนั้น คือ “จินตนาการ” เคยมีคำกล่าวว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” ก็เห็นอยู่ว่าจริง มีนักเขียนที่ดีหลายท่านนำจินตนาการมาผูกเข้ากับงานเขียนทำให้เกิดความแปลกใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ และน่าอ่าน จินตนาการที่ไม่รู้จบอย่างมีขอบเขต
8. เป็นตัวของตัวเอง การมีอคติของนักเขียน ทำให้งานเขียนชิ้นนั้น ไม่น่าอ่านเอาเสียเลย ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับภูมิหลังของผู้อ่านเป็นสำคัญด้วย งานเขียนใดที่ผู้เขียนมีอคติไปเสียแล้วก็คงไม่ต่างอะไรกับกระดาษทิชชู่เมื่อโดนน้ำ เมื่อมันแห้ง คงจะแข็ง และใช้ทำอะไรไม่ได้อีก นอกจากย่อยสลายไปตามเวลา
9. รักงานเขียน
ผู้เขียน: ครูสุริยา


ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=38436