ผู้เขียน หัวข้อ: มะเร็งตับ คร่าชีวิต เทพพร เพชรอุบลอีกรายแล้ว  (อ่าน 2851 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออนไลน์ ประสิทธิ์

  • Administrator
  • *
  • ออนไลน์
  • 6177
    9863
  • เพศ: ชาย
    • เพลงพักใจดอทเนต


(ขอบคุณภาพจาก http://www.esanguide.com/)

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ต.ค. 56) นายเทพพร เพชรอุบล ศิลปินและนักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดังวัย 66 ปี ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งตับ หลังเข้ารับการรักษาเมื่อช่วงกลางปี 2555 โดยพิธีสวดพระอภิธรรมศพจะจัดขึ้นที่วัดบ้านห้วยชัน ต.ศิลา จ.ขอนแก่น ในวันนี้ (23 ต.ค. 56) โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในช่วงเย็นของวันนี้ (23 ต.ค.)

เทพพร เพชรอุบล ถือว่านักร้องนักประพันธ์เพลงชั้นครูที่สามารถร้อยเรียงถ้อยคำภาษาให้สวยงาม กระชับ และสื่อถึงความคิด ความรู้สึก และวิถีชีวิตของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ผลงานเพลงชื่อดัง ได้แก่ อาลัยพระธาตุพนม , คิดฮอดอ้ายแหน่เด้อ , อีสานบ้านเฮา ฯลฯ ได้รับรางวัลรางวัลศิลปินดีเด่น สาขาศิลปะการแสดง จากศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ปี 2535 และรางวัลศิลปินมรดกอีสาน  จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในปี 2554

ขอบคุณ MThai News

ข่าวจาก คม ชัด ลึก

จากไปอย่างสงบ!'เทพพร เพชรอุบล'
จากไปอย่างสงบ! ศิลปินและนักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดังเจ้าของเพลงอีสานบ้านเฮา 'เทพพร เพชรอุบล' หลังรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งตับมานานนับปี เพื่อนเฝ้าดูใจจนวินาทีสุดท้าย
              จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเทพพร บุญสุข หรือเทพพร เพชรอุบล ศิลปินและนักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดัง เนื่องจากอาการป่วยโรคมะเร็งตับ ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปที่บ้านพักเลขที่ 118 ม.4 บ้านห้วยชัน ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น

               เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม ได้รับการเปิดเผยจาก นางพิกุล บุญสุข อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นภรรยาว่า อาการของครูเพลงลูกทุ่งชื่อดังได้ทรุดอย่างกระทันหันในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 22 ต.ค. โดยมีอาการตัวแข็ง ไม่ขยับตัวไม่ตอบสนอง มีเพียงแค่อ้าปากค้างและลืมตากรอกไปมาช้าๆ หรือซึ่งผิดปกติแตกต่างจากวันที่ผ่านมาที่สามารถพูดคุยได้ วิจารณ์เพลงที่ลูกศิษย์แต่งให้ฟังได้ จึงได้โทรบอกให้เพื่อนญาติๆได้ทราบกันว่าอาการไม่ค่อยดี ทรุดหนักมากจนขยับตัวไม่ได้ มีอาการอ่อนแรงตัวแข็ง ไม่ตอบสนองกินไม่ได้ดื่มน้ำแทบจะไม่ได้แล้ว
              และในวันนี้ได้มีนายธีระชาติ เล็กสิงห์โต ลูกศิษย์นักแต่งเพลง โดยเฉพาะเพลงคืนเดือนหลายดวงซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายที่ได้ร่วมกันแต่งกับลูกศิษย์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อประกอบในภาพยนต์เรื่องมนต์รักสีพันดอนของ สุรสีห์ ผาธรรม มาเปิดให้ฟัง โดยมีญาติสนิทร่วมรับฟังด้วย
   
               นางพิกุล กล่าวต่อว่า หลังจากเมื่อกลางปีที่แล้วอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งได้กำเริบต้องหามส่งโรงพยาบาลจนกระทั่งออกมารักษาตัวที่บ้าน อาการของนายเทพพรก็ทรงและทรุดมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งไม่สามารถเดินหรือช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อสามเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังพูดคุยพยุงนั่ง ยกไม้ยกมือ ทานอาหารได้ เมื่อวานยังพูดคุยหัวเราะกับลูกหลานได้อย่างปกติ แต่กลับทรุดกระทันหันในช่วงดึกที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนก็ได้เตรียมใจและทำใจไว้แล้ว
   
               อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 20.14 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่านายเทพพรได้เสียชีวิตอย่างสงบ โดยมีญาติและศิลปินลูกทุ่งเช่น  ศักดิ์สยาม เพชรชมภู , เหลือง บริสุทธิ์, เทพรังสรรค์ ขวัญดารา ทีมตลกที่เคยร่วมงานวงดนตรีเทพพร เพชรอุบล มาเฝ้าดูใจจนวินาทีสุดท้าย โดยญาติจะนำศพไปตั้งบำเบ็ญกุศลที่วัดบ้านห้วยชัน ต.ศิลา ซึ่งอยู่ใกล้บ้านพักช่วงเช้าวันที่ 23 ตุลาคม นี้ 

ประวัติ"เทพพร เพชรอุบล"

              สำหรับนายเทพพร เพชรอุบล นั้นมีชื่อจริงว่า เทพพร บุญสุข เกิดปี พ.ศ. 2490 ปัจจุบันอายุ 66 ปี เป็นชาวบ้านโนนใหญ่ ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี  คนที่บ้านเรียกว่า อ๋อ เขาจบชั้น ป. 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ก่อนจะไปต่อชั้นมัธยมในตัวจังหวัด และจบการศึกษาชั้นสูงสุดปีที่ 3 แผนกช่างกลโรงงาน จากโรงเรียนองค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียอาคเนย์ หรือ ร.ร.ส.ป.อ. ปัจจุบันคือโรงเรียนเทคนิคอุบลราชธานี เมื่อปี 2509
   
              หลังจบการศึกษา เขาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อโรงเรียนเพาะช่าง สาขาประติมากรรม แต่เรียนได้ 2 ปีก็ลาออก เนื่องจากอยากเป็นนักร้อง เพราะมีพรสวรรค์ในการร้องรำทำเพลง สนใจดนตรีและเสียงเพลงมาตั้งแต่ยังเด็ก ระหว่างที่เรียนช่างกล ส.ป.อ. ก็เคยขึ้นร้องเพลงให้กับทางโรงเรียน โดยผู้ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการอยากเป็นนักร้องในยุคนั้นของเขาก็คือ พร ภิรมย์ ศิลปินนักร้องลูกทุ่งผู้โด่งดังในยุคนั้น ซึ่งเขาสามารถเลียนเสียงเพลงแหล่ของ พร ภิรมย์ ได้เหมือนมาก
   
              ที่บ้านเกิด เขาจับคู่กับ นพดล ดวงพร โฆษกวิทยุประจำจังหวัดในสมัยนั้น ออกรับงานร้องเพลงตามที่ต่างๆในเขตจังหวัด ต่อมาทั้งสองเกิดความคิดขยับขยายความดังออกไปนอกตัวจังหวัด ด้วยการไปเป็นนักร้องวงดนตรีใหญ่ในกรุงเทพฯ จึงพากันมาสมัครอยู่กับวง ศักดิ์ศรี ศรีอักษร ซึ่งที่นี่ พิพัฒน์ บริบูรณ์ เจ้าของวงให้ เทพพร ใช้ชื่อว่า จะเด็ด เพชรอุบล
   
              นอกจากการเป็นนักร้องแล้ว ที่วงเขายังมีหน้าที่พิเศษคือคัดลอกเพลงจากสมุดเล่มเก่าลงเล่มใหม่ ด้วยเหตุว่าเป็นคนลายมือสวย งานนี้ทำให้เขาได้เรียนรู้วิธีการแต่งเพลงไปโดยอัตโนมัติ ในช่วงนี้ เขาได้ลองแต่งเพลงหลายเพลง โดยใช้ชื่อว่า เทพพร ศิริโมกุล
   
              ที่วงศักดิ์ศรี ศรีอักษร เขาได้รับการสนับสนุนให้บันทึกเสียงหลายเพลง แต่เพลงแรกที่เขาแต่งเองร้องเอง มีชื่อว่า  “ นับหมอนรถไฟ “ ซึ่งเขียนขึ้นจากประสบการณ์การหลงทางในกรุงเทพฯของเขาเอง จากนั้น เทพพร ก็แต่งเพลงขึ้นอีกหลายเพลง หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือเพลง หมั่นไส้ ซึ่ง ผ่องศรี วรนุช ร้องแก้กับเพลง เสียวไส้ ของสุรพล สมบัติเจริญ
   
              ต่อมาไม่นาน วงดนตรี ศักดิ์ศรี ศรีอักษร ก็ยุบวง เทพพร หันไปทำงานสารพัดที่ค่ายทหารอเมริกันในสนามบินอุบลราชธานี แต่ถ้ามีเวลาว่างก็ขึ้นร้องเพลงกับวงดนตรีที่เปิดการแสดงในเขตจังหวัด และเล่นดนตรี (แซกโซโฟน กับ แอคคอเดียน ที่ไปเรียนรู้มาจากวงศักดิ์ศรี ศรีอักษร ) ให้กับหมอลำคณะรังสิมันต์ ต่อมา วิเชียร สติรอดชมภู ชักชวนให้มาเป็นโฆษก พร้อมทั้งทำหน้าที่เล่นดนตรี และเล่นตลก ประจำวงดนตรีและหมอลำคณะเพชรสยาม ภายใต้การบริหารของ เทพบุตร สติรอดชมภู ซึ่งยังมีวงดนตรีและคณะหมอลำอยู่ในสังกัดอีกหลายวง
   
              ที่นี่ ผลงานการแต่งเพลงของเทพพร ได้สร้างนักร้องดังในสังกัดของเทพบุตร สติรอดชมภูขึ้นมาคนหนึ่ง เขาชื่อ ศักดิ์สยาม เพชรชมภู ที่โด่งดังถึงขั้นสามารถประชันกับวงดนตรีชื่อดังแห่งยุคของภาคกลางอย่าง สายัณห์ สัญญา ได้เลยทีเดียว ซึ่งในช่วงนี้เทพพร เริ่มเปลี่ยนมาใช้ชื่อ เทพพร เพชรอุบล และหันมารับบทนักร้องอีกครั้ง พร้มกับได้บันทึกเสียงเพลงดัง “คิดฮอดอ้ายแหน่เด้อ”
   
              เพลงนี้บันทึกแผ่นเสียงลงบนแผ่นเดียวกับเพลง “ ลำเพลินเจริญใจ “ ของ ดาว บ้านดอน แต่อยู่คนละหน้า และก็ถูกความดังของลำเพลินเจริญใจกลบเสียสิ้น แต่ต่อมาเกิดเหตุรัฐประหารในประเทศ และมีคำสั่งห้ามโฆษณาตามวิทยุ ทำให้รายการวิทยุไม่มีรายได้ และเตรียมอำลาหน้าปัด จึงเปิดเพลง “ คิดฮอดอ้ายแหน่เด้อ” ที่ขึ้นต้นด้วยประโยคที่ว่า “ ยกมือขึ้นบ๊าย บาย เป็นความหมายว่าอ้ายลาก่อน “ เพื่ออำลาแฟนเพลง เพลงนี้จึงดังขึ้นมา
   
              จากนั้นในปี 2518 เขาลาออกจากวง และได้รวบรวมสมัครพรรคพวกตั้งวงดนตรี เทพพร เพชรอุบล ซึ่งสามารถยืนอยู่ในวงการได้ 7 ปี จากนั้นก็ผันตัวเองมาเป็นนักร้องรับเชิญตามวงต่างๆ
   
              นอกจากนี้ เทพพรยังประพันธ์เพลงให้กับนักร้องท่านอื่นมากมาย ส่งผลให้ศิลปินนักร้องเหล่านั้นมีชื่อเสียง
   
              อดีตนักร้องระดับแถวหน้าของอีสาน พูดถึงการแต่งเพลงของตนเองว่า มักจะไม่ได้แต่งเก็บเอาไว้ ส่วนใหญ่จะเขียนตามที่เขาสั่งเพลงมาจะทำได้ดีกว่า "เวลาใคร (ค่ายเพลง หรือนักร้อง) สั่งก็เขียน ถ้าปกติสบายดีก็ไม่ได้เขียน เพราะเวลามีคนสั่งมาก็จะได้พล็อตมาก็จะเขียนได้ดี
   
              จากการทำงานอย่างหนักมาตลอดชีวิต เป็นผลให้ปลายปี 2540 เขาล้มป่วยเนื่องจากเส้นเลือดในสมองอุดตัน เป็นผลให้ไม่สามารถพูดหรือเคลื่อนไหวและช่วยตนเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็ง ทำให้เขาหายจากโรค และกลับมาแข็งแรง สามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้อีกครั้ง
   
              ผลงานเพลง(ร้อง)
   
              1.อาลัยพระธาตุพนม 2.คิดฮอดอ้ายแหน่เด้อ 3.นัดวันให้น้องรอ 4.สั่งฟ้าไปหาน้อง 5.เสียงแคนแทนใจ 6.ฝังใจเวียงจันทน์ 7.สามเกลือเที่ยวกรุง (2) 8.รำวงหาคู่ 9.ครวญหาอังคนางค์ 10.จนแท้น้อ 11.ร้องไห้ทำไม 12.บ่ลืมบ้านนอก 13.สัมภาษณ์เทพี 14.ป๋ากันเถาะ 15.ไก่จ๋าไก่ 16.คนอุ้มไก่ 17.กลับมาเถิดน้อง 18.นับหมอนรถไฟ 19.อีสานบ้านเฮา
   
              รางวัลและเกียรติคุณที่ได้รับ
   
              - รางวัลศิลปินดีเด่น สาขาศิลปะการแสดง จากศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ปี 2535
   
              - รางวัลศิลปินมรดกอีสาน  จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในปี 2554
   
              ผลงานบริการสังคม   
   
              - แต่งเพลงและร้องเพลงในเหตุการณ์พระธาตุพนมถล่ม เมื่อปี 2518 ทำให้คนไทยรำลึกถึงเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งนั้นมิรู้ลืม
   
              - ร่วมแต่งเพลงและร้องเพลง จำหน่ายเพื่อการกุศลในวาระ 200 ปี จังหวัดอุบลราชธานี และวาระสมโภชน์ 100 ปี จังหวัดอุดรธานี ปี 2535
   
              - สนับสนุนณรงค์คนอีสานไม่กินปลาดิบ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด ขอนแก่น และคณะเพชรพิณทอง ปี 2535
   
              - สนับสนุนรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ปี 2536 ได้รับเกียรติจากสมาคมนักแต่งเพลง ให้เป็นตัวแทนนักร้องของภาคอีสาน แต่งเพลงและร้องเพลงเนื่องในงานส่งพระวิญญาณสมเด็จย่า
   
              - ได้เดินทางไปเผยแพร่ศิลปะพื้นบ้านที่วัดพระศรีนครินทร์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
   
              จนกระทั่งเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2555 ที่ผ่านมา นางพิกุล บุญสุข หรือ โบตั๋น ภรรยาที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ได้นำตัวเทพพร ส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  อีกครั้งหลังจากมีอาการทรุดหนักเพราะอาการอัมพฤกษ์กำเริบ ประกอบกับมีภาวะโรคตับแทรกซ้อนด้วย และต้องนอนพักอยู่โรงพยาบาลนานนับเดือนถึงได้กลับไปอยู่ที่บ้าน ที่ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น และเทียวเข้าออกโรงพยาบาลตลอด  17 ปีที่ผ่านมา
   
              จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อเวลา 20.14 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2556 ในวัย 66 ปี


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=21175
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23/ต.ค./13 16:48น. โดย ประสิทธิ์ »
สมาชิกใหม่..ก่อนตั้งกระทู้แนะนำตัวให้ดูตัวอย่าง.แล้วไปอ่านประกาศการใช้งานบอร์ดและห้องโหลดเพลง เมื่ออ่านเข้าใจแล้วก็ตอบรับทราบทั้ง 2 กระทู้1.ห้ามเด็ดขาดการใช้เพียงอีโมตอบกระทู้เพื่อโหลดเพลง.2.ห้ามตอบเพียงขอบคุณครับ/ค่ะ โหลดเพลง 5:1 อ่านให้เข้าใจด้วย

ออฟไลน์ สิงห์ท่าเรือ

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 251
    26
    • อีเมล์

ขอไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณเทพพร เพชรอุบล ด้วยครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=21175

ออฟไลน์ สุรพันธ์ นครปฐม

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 276
    28
    • อีเมล์

ขอแสดงความเสียใจ ด้วยครับ รู้สีกช่วงนี้นักรัองลูกทุ่งจะแพ้โรคมะเร็งตับนะครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=21175